Vibe Coding อาจเป็นแนวคิดใหม่สำหรับ Web3 ด้วยเช่นกัน

ผู้เขียนต้นฉบับ: miguelrare

บทความต้นฉบับแปลโดย: Deep Tide TechFlow

Pumpfun ได้นำโทเค็นใหม่หลายแสนรายการเข้าสู่ตลาด

Vibecoding จะนำการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกันมาสู่แอปพลิเคชัน Web3

$GOAT เป็นผู้บุกเบิกในด้านเอเจนต์ AI

มันผสมผสานสองแนวคิดยอดนิยมในขณะนั้นได้อย่างลงตัว ได้แก่ ตัวแทน AI + เหรียญมีม ทำให้ "มูลค่าของโทเค็น" ชัดเจนสำหรับนักเก็งกำไร (เดเจน) ในทันที

อย่างไรก็ตาม $GOAT ไม่ได้เกิดขึ้นมาเองโดยไม่มีที่มาที่ไป ความสำเร็จของมันแยกไม่ออกจากการเร่งปฏิกิริยาที่สำคัญหลายประการสำหรับ Web2 ซึ่งได้แก่โครงสร้างพื้นฐานที่ X จัดหาให้ และแรงผลักดันที่ OpenAI สร้างขึ้นมา

หากคุณอยู่ในตลาดหุ้นในช่วงเวลานั้น คุณอาจจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป

หลังจากเปิดตัว $GOAT ได้ไม่นาน ทุกคนก็เริ่มพูดถึง Virtual Protocol ซึ่งเป็นโครงการที่มีอยู่ก่อนที่กระแสจะดังกระหึ่ม และก่อนหน้านั้น มูลค่าหุ้น (FDV) ของโครงการนี้ก็แกว่งตัวอยู่ระหว่าง 20 ล้านถึง 50 ล้านดอลลาร์มาเกือบหนึ่งปี

ในปัจจุบัน รูปแบบที่คล้ายคลึงกันมากกำลังเกิดขึ้นกับ Vibecoding คำนี้ค่อนข้างใหม่ นักเก็งกำไรบางรายเริ่มใช้ Vibecoding กับโครงการบนบล็อกเชนแบบง่ายๆ แล้ว แต่แอปพลิเคชันเหล่านี้มักไม่ได้รับความสนใจมากพอเนื่องจากขาดโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่ Web3

ต่อไปนี้เป็นการวิเคราะห์โดยละเอียด:

• การเติบโตของ Vibecoding ใน Web2
• ผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อ Web3
• การก่อตัวของโครงสร้างพื้นฐานบนบล็อกเชนในช่วงเริ่มต้น
• สัญญาณเชิงบวกจาก Web2

สัญญาณขาขึ้นจาก Web2

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 ถึงเดือนธันวาคม 2025 สัดส่วนของคำถามทั้งหมดเกี่ยวกับหลักสูตร LLM ที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมจะเพิ่มขึ้นจาก 11% เป็น 50%

ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี การค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมคิดเป็นครึ่งหนึ่งของหมวดหมู่การใช้งาน LLM ทั้งหมด

ในขณะเดียวกัน มูลค่าของแพลตฟอร์มการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด พุ่งสูงขึ้นถึง 72 เท่า จาก 400 ล้านดอลลาร์ เป็น 29.3 พันล้านดอลลาร์ภายในหนึ่งปี

หากเราขยายมุมมองและพิจารณาข้อมูลจากการสำรวจและรายงานการวิจัย จะพบว่ามีสัญญาณสำคัญสามประการที่ควรให้ความสนใจ:

• 84% ของผู้ตอบแบบสอบถามกำลังใช้งานหรือวางแผนที่จะใช้เครื่องมือ AI ในกระบวนการพัฒนา
• ปัจจุบัน 41% ของโค้ดถูกสร้างขึ้นโดย AI
• นักพัฒนาซอฟต์แวร์กล่าวว่า เครื่องมือ AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้โดยเฉลี่ย 10%-30%

ในขณะเดียวกัน ควรชี้แจงให้ชัดเจนว่า Vibecoding ไม่เหมือนกับการพัฒนาโดยใช้ AI ช่วย

สำหรับระบบที่ซับซ้อนในระดับการผลิต การพึ่งพา Vibecoding เพียงอย่างเดียวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราการเติบโตที่น่าทึ่งของสาขานี้ นักพัฒนาจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จะเริ่มนำ Vibecoding มาใช้ในขั้นตอนการทำงานของตน

(จากผลสำรวจนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Stack Overflow ปี 2025 พบว่า ปัจจุบันมีนักพัฒนาเพียง 17% เท่านั้นที่ใช้ Vibecoding ซึ่งหมายความว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก)

เอฟเฟกต์ PumpFun

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การออกโทเค็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมต่างๆ ทดลองใช้กลไกการออกโทเค็นหลายแบบ จนกระทั่ง PumpFun นำเสนอโมเดลที่เรียบง่ายอย่างยิ่ง PumpFun มอบกระบวนการออกโทเค็นที่คล่องตัวให้กับผู้สร้าง และนำประสบการณ์การซื้อขายแบบใหม่มาสู่เหล่านักเก็งกำไร (degens) ดังนั้น ทำไมเราจึงไม่เห็นโมเดลที่คล้ายกันนี้ในแอปพลิเคชัน Web3 บ้างล่ะ?

กลุ่มเดเจนมักจะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ใช้เทคโนโลยีและปรับตัวเข้ากับกระแสใหม่ๆ อยู่เสมอ

หลายคนในกลุ่มนี้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าตลาดต้องการผลิตภัณฑ์อะไรในปัจจุบัน วิธีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล่านั้น และสิ่งที่ชาวทวิตเตอร์สายคริปโต (CT) ให้ความสำคัญอย่างแท้จริง เพราะพวกเขาติดตามการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ มาหลายปีแล้ว

การเปิดโอกาสให้เหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเปลี่ยนไอเดียให้เป็นผลิตภัณฑ์ได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดหรือเสียค่าใช้จ่ายสูง ถือเป็นการเปิดทางให้เกิดไอเดียใหม่ๆ สำหรับการทดลองในแนวหน้า

ดังนั้น เราอาจได้เห็นการทดลองสร้างสรรค์นับร้อยเกิดขึ้นในหลากหลายสาขา:

แอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภค, เทอร์มินัลการซื้อขาย, SocialFi, ตลาดการคาดการณ์, แผนการหลอกลวงแบบปอนซีของ GameFi และอื่นๆ อีกมากมาย

ปรากฏการณ์นี้ อาจส่งผลให้การเติบโตของแนวคิดทางการตลาดเฉพาะบางอย่างเร่งตัวขึ้นได้

เหนือกว่าแนวหน้า: การบูรณาการ AI เข้ากับโปรโตคอลหลัก

นอกเหนือจากแนวคิดเชิงนามธรรมอย่าง "เรื่องเล่าจากแนวหน้า" แล้ว ยังมีอีกทิศทางหนึ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นอย่างมาก นั่นคือการบูรณาการ AI เข้ากับโปรโตคอลขนาดใหญ่โดยตรง

ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดคือเทอร์มินัลการซื้อขาย

กลยุทธ์ที่เป็นกลางต่อค่าเดลต้า การขุดหาจุด และการดำเนินการเก็งกำไร ทั้งหมดนี้สามารถแปลงเป็นบอทหรือฟังก์ชันส่วนบุคคลได้โดยผู้ใช้ป้อนคำสั่งง่ายๆ บนแพลตฟอร์ม

ตัวอย่างเช่น:

ตรวจสอบอัตราการระดมทุนสำหรับหุ้นที่แปลงเป็นโทเค็น และเปิดสถานะโดยอัตโนมัติเมื่อมีส่วนต่างราคาที่สำคัญเกิดขึ้นระหว่างตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) สองแห่งที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบไม่จำกัดระยะเวลา

อันที่จริง แนวทางนี้ช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถตอบสนองความต้องการเล็กๆ น้อยๆ ของผู้ใช้หลายพันคน ซึ่งมักจะเป็นความต้องการที่ค่อนข้างเรียบง่าย แต่ทีมงานมักมองข้ามไป

"เรามี Cursor, Replit และ Lovable อยู่แล้ว ทำไมเราถึงต้องการ Web3 เวอร์ชันใหม่?"

ช่วงหนึ่ง ฉันก็ถามตัวเองด้วยคำถามเดียวกันนี้

แต่หลังจากค้นคว้าข้อมูลจำนวนมาก คำตอบก็ปรากฏชัดเจนขึ้น

แม้แต่ในวงการ Web2 Vibecoding ก็ไม่มีแพลตฟอร์มใดที่เหนือกว่าแพลตฟอร์มอื่นอย่างแท้จริง แต่ละแพลตฟอร์มมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง รวมถึงจุดเน้น คุณสมบัติ และกลุ่มผู้ใช้เป้าหมายที่แตกต่างกัน

ผลิตภัณฑ์บางอย่างสามารถแก้ปัญหาเฉพาะด้านหนึ่งหรือสองอย่างได้อย่างยอดเยี่ยม

บางคนพยายามทำทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย

แพลตฟอร์ม Web3 Vibecoding จะไม่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันจาก Lovable หรือ Replit

โครงสร้างพื้นฐานของพวกเขาถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับแนวคิดบนบล็อกเชน ไม่ใช่เพื่อรองรับแอปพลิเคชัน Web2

ระบบนิเวศ Web3 Vibe

ณ เดือนธันวาคม 2025 ยังคงมีโครงการ Web3 ที่เน้นเรื่อง Vibecoding หรือเครื่องมือพัฒนาอยู่น้อยมาก และยิ่งมีกรณีที่ผู้ที่ไม่ใช่นักพัฒนาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ Web3 ที่มีความหมายได้สำเร็จน้อยลงไปอีก

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าการวิเคราะห์ภาพรวมอุตสาหกรรมในปัจจุบันยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ภาพรวมแอปพลิเคชัน/แพลตฟอร์ม

@dreamspaceHQ — คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม และแดชบอร์ดได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด

ข้อได้เปรียบหลักของ Dreamspace อยู่ที่ความสามารถในการรวบรวมข้อมูลจากหลายบล็อกเชน รวมถึงการสร้างหรือเชื่อมต่อสัญญาอัจฉริยะผ่านคำสั่งต่างๆ เช่น BTC, ETH, zkSync, Sei, Base และแม้แต่ Stellar, WTF?

@Minidevx — แพลตฟอร์ม Vibecoding บน Base ที่เน้นการสร้างแอปพลิเคชันขนาดเล็กบน Farcaster

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และมีแอปพลิเคชันที่เปิดตัวออกมาค่อนข้างน้อย

Minidev เปิดตัวโทเค็น $MINI เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอาจเร็วไปหน่อย อย่างไรก็ตาม @0xjenil กำลังดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นฉันจะไม่แปลกใจเลยหากแอปพลิเคชันคุณภาพสูงจะปรากฏขึ้นบน Minidev ในเร็วๆ นี้

@Poofnew — เวอร์ชันบนบล็อกเชนของ Replit

Poof ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนได้ผ่านข้อความแจ้งเตือน ซึ่งจะถูกส่งต่อไปยังเอเจนต์ จากนั้นเอเจนต์เหล่านั้นจะกระจายข้อความแจ้งเตือนไปยังเอเจนต์เฉพาะทางสามตัว ได้แก่ เอเจนต์ UI, เอเจนต์สัญญาอัจฉริยะ และเอเจนต์การดำเนินการ

ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ทีมงานได้นำเสนอแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นโดยใช้ Poof ทั้งหมด ซึ่งผู้ใช้สองคนสามารถดวลกันเพื่อแย่งชิง "waifu" (ตัวละครอนิเมะที่ตนชื่นชอบ) และเดิมพัน SOL (Single Rank) ในระหว่างการดวลได้

โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ Poof ในฐานะพื้นที่ทดลอง

เกม

@RemixGG_ — แพลตฟอร์ม Vibecoding ที่คุณสามารถสร้างเกมบน Base โดยใช้คำแนะนำ หรือเล่นเกมหลายร้อยเกมที่สร้างโดยผู้ใช้รายอื่น

เกมบางเกมเหล่านี้ดีมากจริงๆ

แอปนี้ใช้งานง่ายมาก: ดาวน์โหลดลงโทรศัพท์ของคุณ ไม่ต้องใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล ปัดเพื่อดูเนื้อหา ลองเล่น หรือสร้างเกมของคุณเองได้เลย

ในความคิดของผม นี่คือผลิตภัณฑ์ประเภทที่สามารถดึงดูดผู้ใช้ Web2 ได้อย่างแน่นอน ซึ่งพวกเขาจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังใช้โครงสร้างพื้นฐาน Web3 อยู่

เครื่องมือพัฒนา

@CodigoPlatform — Codigo คือแพลตฟอร์มการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ Solana

มันเป็นการผสมผสานระหว่าง IDE บนระบบคลาวด์ โมเดล AI ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ และเครื่องมือสร้างและปรับใช้แบบครบวงจร

อย่างไรก็ตาม ต่างจาก Poof ที่จัด Codigo เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเขียนโค้ดสร้างบรรยากาศ (Vibecoding) ได้ยาก เพราะคุณยังคงต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรมอยู่บ้าง

หุ่นยนต์ซื้อขาย

@pigeon_trade — บอทซื้อขายที่มี AI ในตัว

นอกเหนือจากการซื้อขายในตลาดสปอต ตลาดเพอร์เพทชวล และตลาดทำนายผลแล้ว คุณยังสามารถแชทกับ Pigeon และฟีเจอร์พิเศษของ Vibecode ได้อีกด้วย เช่น:

• ตรวจสอบอัตราการระดมทุนสำหรับ DEX เฉพาะ และตั้งค่าการแจ้งเตือนหรือเปิดสถานะอัตโนมัติ
• ติดตามกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เลือกและคัดลอกการซื้อขาย
• ค้นหาโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างราคาและอื่นๆ อีกมากมายได้ที่ Polymarket

ข้อคิดส่งท้าย

ปัจจุบัน แพลตฟอร์ม Web3 Vibecoding คุณภาพสูงยังมีอยู่น้อยมาก

โครงการที่มีอยู่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาหรือยังไม่พบความลงตัวระหว่างผลิตภัณฑ์กับตลาด (PMF) ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การพัฒนาเนื้อเรื่องของ Virtual Protocol ให้สมบูรณ์นั้นใช้เวลานานมากเช่นกัน

บ่อยครั้งที่ผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้แย่ เพียงแต่เปิดตัวเร็วเกินไป

ฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าปี 2026 จะเป็นปีที่เราเริ่มเห็นสัญญาณที่แท้จริง:

ผู้ที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์จะสร้างบริษัท Web2 ที่ทำกำไรได้ด้วยตนเองโดยอาศัยความคิดสร้างสรรค์ แพลตฟอร์มขนาดใหญ่จะผสานรวมเครื่องมือ Vibecoding และจำนวนผู้ใช้และรายได้ประจำปี (ARR) ของ Cursor, Replit และ Lovable จะเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง

เช่นเคย Degens จะเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆ

อีกไม่กี่เดือนหรือหนึ่งปีข้างหน้า เราจะหวนมองย้อนกลับไปและเปรียบเทียบจุดเริ่มต้นของเรื่องราว Vibecoding กับการเติบโตของ PumpFun

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคืออะไร?

Pumpfun ได้สร้างโทเค็นใหม่หลายแสนรายการให้กับเรา -> Vibecoding จะนำการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกันมาสู่แอปพลิเคชัน Web3