ผู้เขียนต้นฉบับ: @BlazingKevin_ นักวิจัยที่ Blockbooster

โปรโตคอล x402 – จุดเปลี่ยนสำหรับการชำระเงินของตัวแทน

1.1 ปัญหาการชำระเงินที่ AgentFi เผชิญ

ท่ามกลางการพัฒนาอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (AI) การนำเอเจนต์มาใช้ในวงกว้างจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเอเจนต์เหล่านี้พยายามโต้ตอบกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคเชิงโครงสร้างสองประการที่ยากจะเอาชนะ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำ AgentFi ไปใช้จริง:

1. ปัญหาการขาดตัวตนและอำนาจอธิปไตย : เนื่องจากตัวแทนไม่มีสถานะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล จึงไม่สามารถเปิดบัญชีในธนาคารหรือระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิม (เช่น Stripe) ได้ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดของ AI ต้องอาศัยการแทรกแซงของมนุษย์ เช่น การตั้งค่าคีย์ API ที่ซับซ้อน การอนุมัติธุรกรรม และข้อจำกัดประเภทการชำระเงิน ส่งผลให้ขาดความเป็นอิสระ
2. แรงเสียดทานทางเศรษฐกิจในการชำระเงินรายย่อย : กิจกรรมทางเศรษฐกิจของตัวแทนมักเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีมูลค่าต่ำ ตัวอย่างเช่น มูลค่าของการเรียกใช้ API หรือการขอใช้บริการ AI แต่ละครั้งอาจอยู่ที่เพียง 0.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.05 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น ในสภาพแวดล้อมการชำระเงินปัจจุบัน อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมธุรกรรม 0.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสูงกว่านั้นสำหรับการชำระเงิน 0.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทำให้รูปแบบนี้ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง

โซลูชันสำหรับ 1.2 x402: เกตเวย์การชำระเงินแบบออนเชน A2A

โปรโตคอล x402 ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นอย่างเป็นระบบ โปรโตคอลนี้มอบเกตเวย์การชำระเงินแบบออนเชนที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการโอนมูลค่าระหว่างตัวแทน (A2A)

เวิร์กโฟลว์หลักนั้นอิงตามมาตรฐาน HTTP 402 "ต้องชำระเงิน" และขยายไปยังบล็อคเชน:

1. คำขอ : เมื่อไคลเอนต์ (ตัวแทน A) ร้องขอบริการจากเซิร์ฟเวอร์ (ตัวแทน B) ตัวแทน B จะส่งคำขอชำระเงิน 402 กลับมา โดยขอค่าธรรมเนียมเล็กน้อยอย่างชัดเจน (เช่น 0.01 USDC)
2. การชำระเงิน : หลังจากได้รับคำขอ 402 ตัวแทน A จะส่ง 0.01 USDC ไปยังที่อยู่ของตัวแทน B ผ่านทางบล็อคเชนโดยอิสระ
3. การตรวจสอบและการชำระเงิน : ธุรกรรมบนเครือข่ายจะได้รับการยืนยันภายในไม่กี่วินาที ตัวแทน B จะให้บริการแก่ตัวแทน A ทันทีหลังจากตรวจสอบการชำระเงินสำเร็จ

ลักษณะที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของกระบวนการนี้คือ ทำให้กระบวนการทั้งหมดของการชำระเงิน การหักบัญชี และการชำระเงินเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที โดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์ และมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่น้อยมาก

ยิ่งไปกว่านั้น รูปแบบการชำระเงินแบบไมโคร "จ่ายตามการใช้งาน" นี้ยังน่าดึงดูดใจผู้ใช้มนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน โดยนำเสนอวิธีการที่ยุติธรรมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการแลกเปลี่ยนมูลค่าที่แตกต่างจากระบบ "ลงทะเบียน/สมัครสมาชิก" แบบดั้งเดิม

1.3 แกนหลักของ x402: การออกแบบสถาปัตยกรรมที่เน้น "ความเรียบง่าย"

จุดแข็งของโปรโตคอล x402 อยู่ที่ปรัชญาการออกแบบที่เรียบง่าย

มุ่งเน้นที่การแก้ไขปัญหาหลักเพียงปัญหาเดียว: "การตรวจสอบได้" การชำระเงินระหว่างผู้ซื้อ (ลูกค้า) และผู้ขาย (เซิร์ฟเวอร์)

ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า x402 ไม่ใช่โปรโตคอลพื้นฐานใหม่ที่ครอบคลุมทุกด้าน บทบาทของมันคือ "เครื่องมือขยายการเข้ารหัสแบบดั้งเดิม" ให้กับมาตรฐาน AP2 ซึ่งขับเคลื่อนโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google โปรโตคอล AP2 กำหนดมาตรฐานระดับมหภาคสำหรับ "ความสามารถในการทำงานร่วมกันที่เชื่อถือได้" ระหว่างตัวแทนและผู้ให้บริการ API (เช่น การใช้คำสั่งสำหรับการอนุมัติและการรับรองความถูกต้องที่ตรวจสอบได้ (VCs)) ในขณะที่ x402 มอบ "วิธีการชำระเงิน" แบบ plug-and-play ที่ปรับให้เหมาะกับสินทรัพย์คริปโต

การออกแบบนี้ช่วยลดอุปสรรคในการนำไปใช้ได้อย่างมาก นักพัฒนาหรือผู้ขายบริการ ไม่จำเป็นต้องเข้าใจการทำงานที่ซับซ้อนของบล็อกเชน พวกเขาเพียงแค่สร้างกระเป๋าเงิน ผสานโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด และสร้างรายได้จากบริการของตนให้กับตัวแทนหรือผู้ใช้งานจริงทั่วโลก

1.4 การนำ "การตรวจสอบได้" ไปใช้งาน: การโต้ตอบแบบโซ่ไร้รอยต่อ

ความเรียบง่ายของ x402 ยังสะท้อนให้เห็นในกลไกการตรวจสอบ เมื่อตัวแทนของผู้ซื้อเริ่มคำขอ HTTP 402 ผู้ขาย (เซิร์ฟเวอร์) ไม่จำเป็นต้องรันโหนดหรือเข้าถึงบล็อกเชน เพื่อตรวจสอบว่าธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์หรือไม่

เซิร์ฟเวอร์จะส่งต่อกระบวนการตรวจสอบไปยังบริการภายนอกที่เรียกว่า "ผู้อำนวยความสะดวก" ซึ่งจะคอยตรวจสอบสถานะบนเชนและแจ้งเตือนเซิร์ฟเวอร์เมื่อธุรกรรมได้รับการยืนยัน ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถโต้ตอบกันได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการผสานรวมระบบ

1.5 เหตุใด "ความเรียบง่าย" จึงเป็นประเด็นสำคัญ?

แม้ว่าเรื่องราว "Crypto x AI Agent" จะยิ่งใหญ่ แต่ก็เป็นประเด็นร้อนแรงในตลาดมานาน แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ปัญหาพื้นฐานอยู่ที่เรื่องราว AI Agent ในอดีต (เช่น Defai) มีความซับซ้อนมากเกินไป

เรื่องเล่านี้พยายามบรรลุโซลูชันแบบขั้นตอนเดียว ช่วยให้ตัวแทนสามารถจัดการคีย์ส่วนตัวของผู้ใช้ได้โดยตรง และกำหนดเวลาธุรกรรม DeFi ที่ซับซ้อนได้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความท้าทายสองประการ คือ การขาดมาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียวและความยากในการใช้งานที่สูงมาก เรื่องเล่านี้จึงไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ในที่สุด

การเกิดขึ้นของ x402 ถือเป็น "จุดศูนย์กลาง" ที่สำคัญสำหรับสถานการณ์ที่ลำบากนี้

สิ่งที่ Crypto x AI Agent ขาดไปก่อนหน้านี้คือรากฐานที่เรียบง่ายและระดับต่ำเพียงพอ x402 ซึ่งเป็น มาตรฐานโปรโตคอลการชำระเงิน ที่เรียบง่ายอย่างยิ่ง สามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

• เนื่องจากมันเรียบง่าย จึงบูรณาการได้ง่าย นักพัฒนา Web2 หรือ Web3 ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ
• เนื่องจากความเรียบง่าย จึงมีความสามารถในการจัดองค์ประกอบที่แข็งแกร่งที่สุด : เลเยอร์การชำระเงินมาตรฐานสามารถสร้างระบบนิเวศขนาดใหญ่ได้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: บริการตัวกลางที่หลากหลาย ตัวจัดทำดัชนีข้อมูลบนเชนที่มีประสิทธิภาพ และสถานการณ์การใช้งานที่ไม่จำกัดจำนวนตั้งแต่การชำระเงินด้วยเหรียญ Meme ไปจนถึงบริการ RWA ในโลกแห่งความเป็นจริง

บทบาทหลักและขั้นตอนการทำงานของผู้ช่วยเหลือ (ตัวกลาง)

ในสถาปัตยกรรมโปรโตคอล x402 ตัวกลางถือเป็นแกนหลักของ "ความเรียบง่าย" โดยมีบทบาทสำคัญในฐานะ "ผู้ประสานงานการชำระเงินบนเครือข่าย" และ "เลเยอร์การแยกส่วนทางเทคนิค"

คุณค่าพื้นฐานของบล็อกเชนอยู่ที่การสรุปความซับซ้อนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนในกระบวนการชำระเงินอย่างครบถ้วน ซึ่งรวมถึงชุดการดำเนินการต่างๆ เช่น การจัดการกระเป๋าเงิน การลงนามคีย์ส่วนตัว การประมาณค่าแก๊ส การสร้างธุรกรรม การกระจายสัญญาณบนบล็อกเชน และการตรวจสอบสถานะ

ด้วยตัวกลางนี้ ทั้งลูกค้าและเซิร์ฟเวอร์จึงไม่ จำเป็นต้องโต้ตอบกับบล็อกเชนโดยตรง พวกเขาสามารถดำเนินการชำระมูลค่าแบบออนเชนได้อย่างสมบูรณ์ผ่านคำขอ HTTP มาตรฐาน จึงมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นและไร้รอยต่อ

2.1 สถาปัตยกรรม x402 และการไหลของการโต้ตอบ

เวิร์กโฟลว์ x402 ประกอบด้วยบทบาทสำคัญสี่ประการ:

1. ไคลเอนต์ : หมายถึงตัวแทนหรือเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ที่เริ่มต้นการร้องขอ
2. เซิร์ฟเวอร์ : เว็บไซต์ที่ให้บริการ API หรือเนื้อหา เช่น "ผู้ขาย"
3. ตัวกลาง : บริการบุคคลที่สามที่จัดการการตรวจสอบและการชำระเงินแบบออนเชน
4. บล็อคเชน : ชั้นการชำระมูลค่าขั้นสูงสุด (เช่น Base Chain)

กระบวนการโต้ตอบหลักสามารถแบ่งย่อยออกเป็นขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้:

ระยะที่ 1: ความท้าทายด้านการชำระเงิน

1. ไคลเอนต์ส่งคำขอรับบริการมาตรฐาน (GET /api) ไปยังเซิร์ฟเวอร์
2. เซิร์ฟเวอร์ระบุทรัพยากรเป็นรายการที่ต้องชำระเงินแล้วและส่งคืนรหัสสถานะ 402 - ต้องชำระเงิน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการท้าทายการชำระเงินไปยังไคลเอนต์

ขั้นตอนที่สอง: การลงนามแสดงเจตนาการชำระเงิน

1. เมื่อได้รับการท้าทาย 402 ไคลเอนต์ จะไม่สร้างหรือส่งธุรกรรมบนเชนทันที
2. แต่จะสร้าง "ข้อมูลประจำตัวการชำระเงิน" ขึ้นภายในเครื่อง ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำหนด EIP-3009 โดยพื้นฐานแล้ว นี่คือ "ข้อผูกพันการชำระเงิน" ที่มีการลงนามแล้ว (คล้ายกับเช็คที่ลงนามแล้ว) ซึ่งอนุญาตให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งโอนเงินจำนวนหนึ่งในอนาคต
3. ไคลเอนต์วางข้อมูลรับรองนี้ไว้ในส่วนหัวคำขอ HTTP (X-PAYMENT) และส่งคำขออื่นไปยังเซิร์ฟเวอร์

ขั้นตอนที่สาม: การแยกสาขาที่สำคัญในการยืนยันและการชำระเงิน นี่คือการออกแบบที่ชาญฉลาดของโปรโตคอล x402 โดยที่กระบวนการแยกสาขาออกไป:

1. การตรวจสอบ : หลังจากได้รับ "ข้อมูลรับรองการชำระเงิน" นี้ เซิร์ฟเวอร์ จะไม่ตรวจสอบข้อมูลนั้นด้วยตนเอง แต่จะส่งต่อข้อมูลรับรองไปยังคนกลาง ซึ่งจะเริ่มคำขอ API /verify คนกลางมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็น ยอดคงเหลือในบัญชี ฯลฯ และยืนยันกับเซิร์ฟเวอร์ว่า "ข้อมูลรับรองนี้ถูกต้องและสามารถเบิกเงินได้"

ณ จุดนี้ เซิร์ฟเวอร์จะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่สำคัญ:

• เส้นทาง A: การชำระแบบซิงโครนัส หลังจากได้รับ "การตรวจสอบผ่าน" เซิร์ฟเวอร์ จะเลือกที่จะรอให้เงินเข้าบัญชีจนเต็มจำนวน โดยจะสั่งให้ตัวกลางดำเนินการตามคำขอ /settle (การชำระบัญชี) จากนั้นตัวกลางจะส่งข้อมูลประจำตัวไปยังบล็อกเชน รอการยืนยันบล็อก เมื่อตัวกลางแจ้งเซิร์ฟเวอร์ว่า "เงินมาถึงแล้ว" เซิร์ฟเวอร์จึงจะส่งข้อมูลที่ร้องขอกลับไปยังลูกค้า
• ข้อเสีย : ความล่าช้าในกระบวนการทั้งหมดนั้นเชื่อมโยงกับเวลาในการสร้างบล็อกของบล็อคเชน ซึ่งอาจใช้เวลานานถึงหลายวินาที ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างรุนแรง
• เส้นทาง B: การชำระเงินแบบอะซิงโครนัส นี่คือกลไกหลักที่ทำให้ x402 บรรลุประสบการณ์ความหน่วงต่ำ หลังจากได้รับการยืนยัน "ผ่านการตรวจสอบแล้ว" จากตัวกลาง เซิร์ฟเวอร์ จะไม่รออีก ต่อไป เซิร์ฟเวอร์ จะส่งข้อมูลกลับไปยังไคลเอนต์ทันที พร้อมกับสั่งการให้ตัวกลางดำเนินการชำระเงินแบบ "อะซิงโครนัส" ต่อไปในเบื้องหลัง

2.2 การถ่ายโอนความไว้วางใจ: ความสมดุลที่ละเอียดอ่อนของ x402

ในเส้นทาง B เซิร์ฟเวอร์จะทำการแลกเปลี่ยนที่สำคัญ: เลือกที่จะเชื่อถือ "การยืนยัน" ของตัวกลาง โดยเทียบเท่ากับการรับประกัน "การชำระเงิน" ในอนาคต

ด้วยวิธีนี้ เซิร์ฟเวอร์จะโอนความเสี่ยงของความล่าช้าที่เกิดจาก "การรอการยืนยันบล็อกเชน" ไปยังตัวกลาง ในทางกลับกัน ไคลเอ็นต์แทบจะไม่ได้รับความหน่วงของบล็อกเชนเลย ความหน่วงที่รับรู้ได้เพียงอย่างเดียวคือเวลาเดินทางไปกลับ (หน่วยเป็นมิลลิวินาที) ระหว่างเซิร์ฟเวอร์และการเรียกใช้ API สองครั้งของตัวกลาง

2.3 เทคโนโลยีพื้นฐาน: บทบาทสำคัญของ EIP-3009

ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยมาตรฐาน Ethereum EIP-3009 มาตรฐานนี้ช่วยให้ผู้ใช้ (หรือตัวแทน) สามารถอนุมัติลายเซ็นเพียงครั้งเดียว ซึ่งตัวกลางสามารถใช้เพื่อ "ดึง" เงินในอนาคตได้โดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากลูกค้าเพิ่มเติม ปัจจุบัน สัญญา USDC บนเครือข่าย Base เป็นสินทรัพย์หลักที่รองรับฟังก์ชันนี้ ทำให้เป็นเครือข่ายการชำระเงินที่ได้รับความนิยมสำหรับโปรโตคอล x402

ภูมิทัศน์ตลาดปัจจุบันของ "พ่อค้าคนกลาง"

ความเรียบง่ายของโปรโตคอล x402 ทำให้ความซับซ้อนหลัก (และคุณค่า) ของโปรโตคอลเปลี่ยนไปเป็นบทบาทของ "คนกลาง" ในปัจจุบัน ตลาดได้เริ่มต้นสร้างผู้เล่นหลักสี่ราย โดยแต่ละรายมีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์และรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกัน ซึ่งเผยให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนและการพึ่งพาที่แตกต่างกัน

2.4 Coinbase: การกำหนดมาตรฐานด้วยการอุดหนุน

ในฐานะผู้สร้างโปรโตคอล x402 Coinbase ดำเนินการบริการตัวกลางอย่างเป็นทางการและครองตลาดในช่วงเริ่มต้น

• ข้อมูลตลาด : แพลตฟอร์มได้ประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 1.4 ล้านรายการ โดยมีมูลค่าธุรกรรมรวมประมาณ 1.48 ล้านดอลลาร์
• ขนาดระบบนิเวศ : ดึงดูดผู้ขายได้ 7,000 รายและผู้ซื้อมากกว่า 90,000 ราย ถือเป็นฐานผู้ใช้ที่ใหญ่ที่สุดจนถึงปัจจุบัน
• กลยุทธ์หลัก : ปัจจุบันแพลตฟอร์มนักพัฒนาของ Coinbase ใช้ นโยบายการอุดหนุนฟรีทั้งหมด แม้ว่ากลยุทธ์นี้จะครองส่วนแบ่งตลาดและส่งเสริมมาตรฐานได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ทำให้การพัฒนาระบบนิเวศ x402 ในช่วงแรก ต้องพึ่งพาการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจาก Coinbase เป็น อย่างมาก จุดประสงค์เชิงกลยุทธ์คือการเชื่อมโยงผู้ใช้รายแรกๆ ที่ใช้โปรโตคอล x402 เข้ากับเครือข่าย Base อย่างใกล้ชิด ผ่านแนวทางการอุดหนุนโครงสร้างพื้นฐานแบบทั่วไปนี้

2.5 PayAI: การแสวงหาความก้าวหน้าที่แตกต่างในระบบนิเวศ

PayAI วางตำแหน่งตัวเองเป็นหนึ่งในคู่แข่งหลักของ Coinbase โดยครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 13% บริษัทพยายามที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดผ่าน "การแข่งขันที่แตกต่าง"

• การวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ : สโลแกนของโครงการคือ "Solana First, Multi-Chain x402 Coordinator" อย่างไรก็ตาม ความจริงที่น่าสังเกตก็คือ กิจกรรมธุรกรรมปัจจุบันของโครงการยังคงเกิดขึ้นบนเครือข่าย Base เป็นหลัก และกลยุทธ์ "Solana First" ของโครงการยังไม่ได้รับการสะท้อนในข้อมูล
• กลยุทธ์หลัก ของ PayAI: บริษัทพยายามสร้างระบบนิเวศ "การค้าแบบตัวแทน" ที่เหนือกว่าระบบการชำระเงิน เมทริกซ์ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทวางแผนไว้ (เช่น ตลาด "Freelance AI") แสดงให้เห็นถึง ความตั้งใจที่จะรวมสถานการณ์ต่างๆ เข้ากับระบบการชำระเงิน ยังคงต้องรอดูกันต่อไปว่าโมเดลนี้จะสามารถสร้างระบบวงจรปิดที่พึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง แทนที่จะกลายเป็นรูปแบบหนึ่งของการพึ่งพาเงินอุดหนุนจาก Coinbase หรือไม่

2.6 ThirdWeb: ผู้ให้บริการเครื่องมือที่ "ทำให้เป็นสินค้า" มาตรฐาน

สำหรับ Thirdweb นั้น x402 ไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท แต่เป็น "ปลั๊กอิน" ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่บริษัทนำมาใช้เป็นกระแส

• การวางตำแหน่งแพลตฟอร์ม : Thirdweb เป็นแพลตฟอร์มการพัฒนา Web3 แบบครบวงจรซึ่งมอบ SDK และ API ที่หลากหลาย
• กลยุทธ์หลัก : แทนที่จะแข่งขันกันบน x402 ในฐานะแทร็กที่แยกจากกัน แพลตฟอร์ม ได้ "ทำให้เป็นสินค้าโภคภัณฑ์" อย่างรวดเร็ว โดยบรรจุเข้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ "การชำระเงิน" เพื่อเป็นคุณลักษณะที่มีมูลค่าเพิ่มสำหรับฐานนักพัฒนาที่มีอยู่
• บทบาทในตลาด : กลยุทธ์นี้บ่งชี้ว่า ThirdWeb มุ่งเน้นที่ การทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการเครื่องมือ ดังนั้น การลงทุนด้านทรัพยากรและการมุ่งเน้นไปที่ x402 track เองจึงค่อนข้างจำกัด ทำให้ไม่น่าจะกลายเป็นผู้เล่นหลักในระบบนิเวศโปรโตคอลได้

2.7 x402.rs : โอเพ่นซอร์สและโครงสร้างพื้นฐาน "ไร้ความน่าเชื่อถือ"

x402.rs เป็นการใช้งานโปรโตคอลโอเพ่นซอร์สอิสระที่สร้างขึ้นบนภาษา Rust โดยวางตำแหน่งเป็น ตัวเลือกเทคโนโลยีที่เป็นกลางโดยไม่ขึ้นอยู่กับผู้ริเริ่มโปรโตคอล

• ข้อเสนอคุณค่าหลัก : คุณค่าหลักอยู่ที่การให้บริการ " การใช้งานที่เปิดกว้างและตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ " ซึ่งแตกต่างจากตัวกลางอื่นๆ ที่ทำงานเป็นบริการแบบปิดที่มีการจัดการ
• ผลิตภัณฑ์และการวางตำแหน่ง : ผลิตภัณฑ์หลักของ x402.rs คือตัวกลาง ที่โฮสต์ด้วยตนเอง ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาหรือบริษัทใดๆ สามารถใช้งานและรันบริการตัวกลางของตนเองได้ จึง สามารถควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของตนเองได้อย่างสมบูรณ์และไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม x402.rs ไม่ได้วางตำแหน่งเป็นแพลตฟอร์ม SaaS แต่เป็น หน่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ที่มุ่งเน้นการให้บริการมิดเดิลแวร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับนักพัฒนาแบ็กเอนด์ (โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ Rust stack)
• ผลกระทบต่อตลาด : ดังนั้น อินสแตนซ์สาธารณะอย่างเป็นทางการของ x402.rs ที่เห็นบนกระดานผู้นำตัวกลางจึงเป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานของโครงการ มูลค่าตลาดที่แท้จริงของ x402.rs อยู่ที่ การส่งเสริมการกระจายอำนาจและอิสระของนักพัฒนา ซึ่งเป็นทางเลือกสำคัญแทนการฝากเงินของ Coinbase สำหรับทีมเทคโนโลยีที่ต้องการเซ็นเซอร์ โฮสต์ด้วยตนเอง และปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินได้อย่างอิสระ

การเปรียบเทียบและผลกระทบต่อตลาดของกลไกการออก x402

3.1 กลไกการออกสินทรัพย์ x402: สิทธิในการตีความข้อมูลบนเครือข่ายและนอกเครือข่าย

กระแสความนิยมในตลาดล่าสุดที่เกิดจากโปรโตคอล x402 (เช่น $PING) มี ความคล้ายคลึงกันอย่างมีนัยสำคัญในเชิงโครงสร้าง กลไกการเปิดตัวสินทรัพย์ (asset launchpad) กับกลไกการจารึกของบิตคอยน์ ตรรกะการทำงานหลักสามารถสรุปได้ดังนี้: การใช้บล็อกเชนสาธารณะเป็น "สมุดบัญชีข้อมูลที่ไม่เปลี่ยนแปลง" ในขณะที่อาศัย "ตัวจัดทำดัชนี" นอกเครือข่ายเพื่อกำหนดความหมายเฉพาะให้กับข้อมูลนี้

• ตรรกะการทำงานของการจารึก : ผู้ใช้ส่งธุรกรรมไปยังเมนเน็ตของ Bitcoin เครือข่าย Bitcoin เองมีหน้าที่เพียงบันทึกธุรกรรมเท่านั้น และไม่สามารถสรุปได้ว่าธุรกรรมนั้นถือเป็น "การจารึก" หรือไม่ โปรโตคอล Ordinals ในฐานะตัวจัดทำดัชนีบุคคลที่สาม ทำหน้าที่เป็น "ตัวแปลสถานะ" โปรโตคอลนี้จะสแกนข้อมูลทั้งหมดบนเชน และตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดเอง (เช่น "มาก่อนได้ก่อน") จะกำหนดว่าธุรกรรมใดเป็นจารึกที่ถูกต้อง ซึ่งจะสร้างสถานะนอกเชน BRC-20 ขึ้นมา
• ตรรกะการทำงานของ $PING : โมเดลนี้ใช้สถาปัตยกรรมที่เกือบจะเหมือนกัน ผู้ใช้ส่ง USDC ไปยังที่อยู่เฉพาะบนเครือข่าย Base จากมุมมองของเครือข่าย Base และโปรโตคอล x402 นี่เป็นเพียงการถ่ายโอน ERC-20 มาตรฐาน สิ่งที่ทำให้ธุรกรรมนี้มีความหมายว่า "Mint" อย่างแท้จริงคือ ตัวจัดทำดัชนี x402scan ซึ่งจะสแกนการโอน USDC ทั้งหมดไปยังที่อยู่เฉพาะ และตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (เช่น 1 USDC = 5000 $PING) ยืนยันว่ารายการใดเป็น "Mint ที่ถูกต้อง" ในฐานข้อมูลนอกเครือข่าย และสุดท้ายจะแจกจ่ายโทเค็นผ่านสัญญา

3.2 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของเรื่องเล่า x402 ต่อภูมิทัศน์การแข่งขันของ CEX

การเพิ่มขึ้นของโปรโตคอล x402 นำเสนอ โอกาสเชิงกลยุทธ์สำหรับ CEX และระบบนิเวศของพวกเขาในการปรับเปลี่ยนอิทธิพลของเรื่องราวบนเชน การตัดสินนี้ขึ้นอยู่กับสามประเด็นต่อไปนี้:

1. ลำดับชั้นและความคงอยู่ของเรื่องราว: ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ x402 จากเลเยอร์แอปพลิเคชันไปยังเลเยอร์โปรโตคอล อยู่ที่ข้อเท็จจริงที่ว่ามันไม่ใช่ฮอตสปอตของเลเยอร์แอปพลิเคชัน (เหมือนกับจารึก) แต่เป็น "การฟื้นคืนชีพของเลเยอร์โปรโตคอล" ของโปรโตคอลอินเทอร์เน็ตหลัก HTTP 402 บนเลเยอร์การชำระเงินของบล็อกเชนสมัยใหม่ มีเป้าหมายเพื่อแก้ไข "ปัญหาเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐาน" ของการชำระเงินแบบเรียลไทม์แบบอัตโนมัติในระบบเศรษฐกิจแบบตัวแทน สำหรับ CEX นี่เป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์: การเปลี่ยนจากการสนับสนุน "แอปพลิเคชัน" ไปสู่การกำหนด "มาตรฐาน" ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาจากแพลตฟอร์มการรับส่งข้อมูลไปสู่ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน
2. ช่องว่างเชิงกลยุทธ์สำหรับ Indexers: การต่อสู้เพื่อ "สิทธิ์ในการตีความข้อมูล" Indexers คือ "ผู้แปลข้อมูล" ของระบบนิเวศ Crypto ปัจจุบัน x402scan ดำเนินงานในฐานะหน่วยงานรวมศูนย์ที่มีโทเค็นของตนเอง ซึ่งเผชิญกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์เชิงระบบและความเสี่ยงจากการรวมศูนย์ สิ่งนี้สร้างจุดเข้าเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนสำหรับตลาดแลกเปลี่ยนรวมศูนย์ (CEX) โดยมอบ Indexers ประเภท "สินค้าสาธารณะ" ที่เป็นกลางและเปิดกว้างมากขึ้น การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความไว้วางใจทางเทคโนโลยีและคูเมืองของระบบนิเวศ โดยมีมูลค่าเชิงกลยุทธ์ที่สูงกว่าเงินอุดหนุนทุนแบบง่ายๆ อย่างมาก
3. การวางตำแหน่งตัวเองในการแข่งขันระยะยาว: "รถบัสชำระหนี้" ของระบบเศรษฐกิจตัวแทน สินทรัพย์ MEME (เช่น $PING) เป็นเพียงการยืนยันกระแสความนิยมของตลาดที่มีต่อ x402 มูลค่าระยะยาวที่แท้จริงของมันอยู่ที่การจัดหา "โปรโตคอลการจัดซื้ออัตโนมัติ" ที่ขาดหายไปสำหรับการผสานรวม AI และคริปโต ในระบบเศรษฐกิจแบบเครื่องต่อเครื่อง (M2M) ในอนาคต ตัวแทนจะต้องใช้ x402 เพื่อจัดหา "ทรัพยากรคอมพิวเตอร์" และ "ข้อมูล" โดยอัตโนมัติและบ่อยครั้ง ดังนั้น x402 จึงถูกวางตำแหน่งให้เป็น "รถบัสชำระหนี้" สำหรับแนวโน้มระยะยาวที่มีความแน่นอนสูงนี้ ซึ่งมีศักยภาพเชิงกลยุทธ์ที่สูงมาก

ภูมิทัศน์ในอนาคตและแนวโน้มการหมุนเวียนของแทร็ก X402

การเกิดขึ้นของโปรโตคอล x402 เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ผลักดันให้เกิดกระแสและเงินทุนใหม่ๆ เข้าสู่ภาคส่วน AI Agent ที่ไม่ได้ใช้งานมานาน จากโครงสร้างตลาดปัจจุบัน เราสามารถสรุปได้ว่าภาคส่วนย่อยสำคัญๆ หลายภาคส่วนอาจต้องเผชิญกับการหมุนเวียนในอนาคต

4.1 แท่นปล่อย AI

ปัจจุบัน โปรโตคอล x402 ถูกตีความอย่างกว้างขวางโดยตลาดว่าเป็น " รูปแบบใหม่ของการออกสินทรัพย์ " มากกว่าที่จะเป็นเพียงเครื่องมือการชำระเงินแบบง่ายๆ การตีความนี้ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับแพลตฟอร์ม AI Agent ที่มีอยู่ในระบบนิเวศ Base (เช่น Virtuals และ Clanker) ที่จะกลับเข้าสู่เวทีกลางอีกครั้ง

แพลตฟอร์มเหล่านี้ซึ่งได้รับความเห็นพ้องจากผู้ใช้จำนวนมาก ทรัพยากรโครงการ และฐานนักพัฒนาจำนวนมากในช่วงที่ AI Agent กำลังบูมเมื่อปีที่แล้ว จำเป็นต้องมีเรื่องราวที่น่าสนใจและสดใหม่เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศของตน โมเดล "การออกบัตรเป็นการชำระเงิน" ที่ขับเคลื่อนโดยโปรโตคอล x402 สอดคล้องกับตรรกะทางธุรกิจหลักของแพลตฟอร์มเหล่านี้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่า "แพลตฟอร์มการออกบัตร AI ดั้งเดิม" เหล่านี้จะกลายเป็นกำลังหลักที่มีแนวโน้มสูงสุดที่จะเข้าสู่ตลาดในระยะต่อไป และใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบที่มีอยู่เพื่อแข่งขันชิงส่วนแบ่งตลาด

4.2 ตัวจัดทำดัชนี

หาก x402 เดินตามเส้นทางการพัฒนาของการจารึก จุดเน้นต่อไปของการแข่งขันในตลาดก็จะเปลี่ยนไปจาก "การออกสินทรัพย์" ไปสู่ "การกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับการออกสินทรัพย์" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือ การต่อสู้เพื่อสิทธิในการพูดในดัชนี

ผู้จัดทำดัชนีเป็นผู้ตัดสินแต่เพียงผู้เดียวว่าการชำระเงินใดเป็น Mint ที่ถูกต้อง หาก Launchpad เลือกที่จะไม่ใช้ x402scan แต่สร้างตัวจัดทำดัชนีของตนเองขึ้นมา และกำหนดกลไกการออกเอกสารใหม่ทั้งหมดที่อาจน่าสนใจยิ่งขึ้น Launchpad ก็จะสามารถครองตลาดได้อย่างรวดเร็วด้วยแบรนด์และฐานผู้ใช้เดิมที่มีอยู่

4.3 ตัวกลาง

บทบาทของคนกลางถือเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวในปัจจุบัน แต่การวางตำแหน่งนี้แสดงถึง ความเป็นคู่เชิงกลยุทธ์ :

• สำหรับตลาด Crypto-Native : อุปสรรคทางเทคโนโลยีในการเข้าสู่ตลาดสำหรับบทบาทตัวกลางนั้นไม่สูงนัก แอปพลิเคชันการชำระเงินของ Indexer หรือ Agent ใดๆ ก็สามารถ (และมีแนวโน้มสูง) เลือกใช้บริการตัวกลางของตนเองเพื่อควบคุมเทคโนโลยีและห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดได้ จากมุมมองนี้ ขอบเขตของบทบาทนี้มีจำกัด และความนิยมของบทบาทนี้มีแนวโน้ม ที่จะค่อยๆ ลดลง
• สำหรับตลาดการนำ Web2 มาใช้ พลวัตจะกลับกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อบริษัท Web2 แบบดั้งเดิมต้องการผสานรวมการชำระเงินด้วยคริปโต พวกเขา ไม่เคย สร้างโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง แต่จะเลือกผู้นำตลาด ผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือที่สุด และปฏิบัติตามกฎระเบียบมากที่สุด ในด้านนี้ Coinbase มี ข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้างที่แทบจะผูกขาด เนื่องจากแบรนด์ สถานะการกำกับดูแล และการบูรณาการอย่างลึกซึ้งกับ Base Chain

4.4 การถกเถียงเรื่องบล็อคเชนสาธารณะและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศสแต็ก

การแข่งขันสำหรับ x402 ในที่สุดจะพัฒนาเป็นการแข่งขันระหว่างระบบนิเวศบล็อคเชนสาธารณะ และแกนหลักของการแข่งขันนี้คือ ความลึกซึ้งในการปรับตัวทางเทคโนโลยี

• ความท้าทายในการปรับตัวตามสัญญา : การชำระเงินแบบ "pull" ที่มีความหน่วงต่ำของ x402 พึ่งพาการสนับสนุนมาตรฐาน EIP-3009 เป็นอย่างมาก การนำมาตรฐานนี้ไปใช้งานและฝังลงในเชนอื่นๆ ที่รองรับ EVM ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยนั้นเป็นกระบวนการที่ยาวนานและยากลำบาก ซึ่งนำมาซึ่งความท้าทายด้านวิศวกรรมและความปลอดภัยที่สำคัญ
• โปรโตคอล "Empty Shell" และวิศวกรรมระบบ : โปรโตคอล x402 เองเป็นเพียงมาตรฐาน หรือ "Empty Shell" พลังที่แท้จริงของมันอยู่ที่ ระบบนิเวศสนับสนุน ทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลัง Coinbase ได้ดำเนินแนวทางระยะยาวอย่างเป็นระบบเพื่อเชื่อมต่อ x402 ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ซึ่งรวมถึง:
• ชั้นโปรโตคอล : MCP (การเชื่อมต่อ), A2A (การทำงานร่วมกันหลายโมเดล), AP2 (มาตรฐานมาโคร), EIP-3009 (การชำระเงินเบื้องต้น) ฯลฯ
• โครงสร้างพื้นฐาน : บริการกระเป๋าเงินดั้งเดิม ตลาดการซื้อขาย
• ชั้นแอปพลิเคชัน : สถานการณ์เฉพาะที่สร้างขึ้นตามมาตรฐาน x402

เกี่ยวกับ BlockBooster

BlockBooster คือสตูดิโอร่วมทุน Web3 ในเอเชียที่ได้รับการสนับสนุนจาก OKX Ventures และสถาบันชั้นนำอื่นๆ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับผู้ประกอบการที่โดดเด่น เราเชื่อมโยงโครงการ Web3 เข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์และการบ่มเพาะเชิงลึก เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพคุณภาพสูงเติบโต

คำปฏิเสธความรับผิดชอบ

บทความ/บล็อกนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และสะท้อนมุมมองส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่จุดยืนของ BlockBooster บทความนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะด้านการลงทุน (i) ข้อเสนอหรือการชักชวนให้ซื้อ ขาย หรือถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ (iii) คำแนะนำทางการเงิน บัญชี กฎหมาย หรือภาษี การถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึง stablecoin และ NFT มีความเสี่ยงสูงมาก โดยมีความผันผวนของราคาอย่างมาก และมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียมูลค่า คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายหรือการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเหมาะสมกับคุณหรือไม่ โดยพิจารณาจากสถานะทางการเงินของคุณเอง หากมีคำถามเฉพาะ โปรดปรึกษาที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ภาษี หรือการลงทุนของคุณ ข้อมูลในบทความนี้ (รวมถึงข้อมูลตลาดและสถิติ หากมี) มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น เราได้ใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสมในการรวบรวมข้อมูลและแผนภูมิเหล่านี้ แต่เราจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดหรือการละเว้นใดๆ ที่แสดงไว้ในที่นี้