Forbes: เหตุใดชาวอาร์เจนตินาจึงยอมรับสกุลเงินดิจิทัล?

ผู้เขียนต้นฉบับ: ฮาเวียร์ ปาซ, ฟอร์บส์

ต้นฉบับเรียบเรียง: ลูฟี่, Foreisght News

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาร์เจนตินาได้รับการยกย่องว่าเป็นเนื้อย่างที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อสะสมของประเทศสูงถึง 276% แท้จริงแล้ว สัญญาณที่สำคัญของการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในอาร์เจนตินาคือพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้อยู่อาศัย โดยความต้องการเนื้อวัวลดลงโดยหันไปหาโปรตีนราคาถูกกว่า เช่น เนื้อหมูและไก่ ผู้สังเกตการณ์บางคนเชื่อว่าราคาเนื้อวัวในอาร์เจนตินาจะเพิ่มขึ้น 600% ในปีนี้ และสเต็กนั้นไม่ใช่อาหารหลักประจำวันสำหรับชาวอาร์เจนตินาอีกต่อไป

อัตราเงินเฟ้อรายเดือนของอาร์เจนตินา

แม้ว่าชาวอาร์เจนตินาเพิ่งเริ่มมองหาทางเลือกอื่นแทนเนื้อวัว แต่พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงเงินเปโซที่อ่อนค่าลงมานานหลายทศวรรษ ในความเป็นจริง ชาวอาร์เจนตินาซื้อดอลลาร์ผ่านสถาบันตลาดมืดมาเป็นเวลา 50 ปีแล้ว นักการตลาดผิวดำที่มีชื่อเสียงที่สุดยังปรากฏตัวบนถนนฟลอริดาอเวนิว ซึ่งเป็นทางสัญจรหลักในเมืองหลวงบัวโนสไอเรส

ตลาดมืดเป็นทางเลือกสำหรับชาวอาร์เจนตินาซึ่งสามารถถูกหลอกลวงได้ ที่สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราที่ไม่ได้รับการอนุมัติและไม่ปลอดภัยเหล่านี้ บางครั้งชาวอาร์เจนตินาจะแลกเปลี่ยนเงินเปโซเป็นดอลลาร์ในอัตราสองเท่าของอัตราที่รัฐบาลประกาศไว้ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันสูงกว่าเปโซอย่างเป็นทางการ 954 ต่อดอลลาร์สหรัฐถึง 41% นั่นไม่ใช่ความเสี่ยงเพียงอย่างเดียว ความเสี่ยงที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ลูกค้าถูกปล้นโดยคู่ค้าหรือได้รับสกุลเงินปลอม ตามรายงานของ El Nacional หนึ่งในสองหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายใหญ่

แต่ตอนนี้ วิธีใหม่ในการรับเงินดอลลาร์ได้เกิดขึ้นแล้ว: สกุลเงินดิจิทัล ในความเป็นจริง อาร์เจนตินามีอัตราการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลที่สูงกว่า (อัตราส่วนของผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัลต่อประชากรทั้งหมด) มากกว่าประเทศอื่นๆ ในซีกโลกตะวันตก การศึกษาโดย Forbes ร่วมกับบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลของ SameWeb พบว่าจากผู้เข้าชม 130 ล้านคนในการแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก 55 แห่ง โดย 2.5 ล้านคนมาจากอาร์เจนตินา

อัตราการยอมรับ Cryptocurrency ในประเทศอเมริกา

ชาวอาร์เจนตินาไม่ได้เล่นกับ Memecoin หรือพยายามที่จะรวยในชั่วข้ามคืนด้วยเหรียญร้อนถัดไป โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะซื้อและถือ Tether (USDT) ซึ่งเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสังเคราะห์ที่มีมูลค่าตลาด 112 พันล้านดอลลาร์ Maximiliano Hinz หัวหน้าฝ่ายละตินอเมริกาที่ Bitget การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลกล่าวว่า “อาร์เจนตินาเป็นตลาดที่มีความหลากหลาย และผู้คนจำนวนมากเพียงแต่ซื้อ USDT เราไม่เห็นสิ่งนี้ที่อื่นเลย”

แม้ว่าเหรียญ stablecoin อย่าง SUDT อาจดูเหมือนเป็นหนทางที่สมบูรณ์แบบในการขจัดปัญหาเงินเฟ้อของอาร์เจนตินา แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงเช่นกัน ประเทศยังไม่ได้ออกกฎระเบียบใด ๆ เพื่อควบคุมอุตสาหกรรมที่บ้าคลั่งนี้ และการแลกเปลี่ยนและตลาดที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก ( โดย Forbes ) ไม่ใช่ตลาดที่อาร์เจนติน่าเลือกอย่างกว้างขวางที่สุด

Javier Milley ประธานาธิบดีเสรีนิยมคนใหม่ของอาร์เจนตินากล่าวว่าเขายินดีที่จะยอมรับสกุลเงินดอลลาร์ของประเทศของเขา เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม เขาบอกในการประชุมทางธุรกิจว่าประเทศกำลังก้าวไปสู่ "ระบบสกุลเงินที่แข่งขันได้" ซึ่งทุกคนสามารถเลือกสกุลเงินที่จะใช้สำหรับการชำระเงินและธุรกรรมได้ เขาคาดการณ์ว่าสิ่งนี้จะส่งผลให้อาร์เจนตินา "ใช้เงินเปโซน้อยลงเรื่อยๆ และเมื่อมันเกือบจะหยุดใช้เปโซแล้ว เราจะไปที่ดอลลาร์และกำจัดธนาคารกลาง เพื่อให้นักการเมืองที่ทุจริตไม่สามารถขโมยความมั่งคั่งโดยการพิมพ์เงินได้"

USD Stablecoins สอดคล้องกับแนวคิดเรื่องดอลลาร์ แต่ผู้ซื้อจะต้องหาวิธีที่ปลอดภัยในการซื้อ ถือ และใช้งาน อาร์เจนตินาไม่มีการป้องกันที่เชื่อถือได้สำหรับผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัล

อาร์เจนตินามีอัตราการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในซีกโลกตะวันตก จากการศึกษาข้อมูลเว็บไซต์ของคล้ายเว็บของ Forbes พบว่าจากผู้เข้าชม 130 ล้านคนในการแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก 55 แห่ง 2.5 ล้านคนมาจากอาร์เจนตินา นอกจากนี้ บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล crypto Chainalysis ยังระบุในรายงานเมื่อปลายปีที่แล้วว่าอาร์เจนตินา “เป็นผู้นำในละตินอเมริกาในปริมาณธุรกรรมดิบโดยมีมูลค่าธุรกรรมประมาณ 85.4 พันล้านดอลลาร์” ณ เดือนกรกฎาคม 2023

อย่างไรก็ตาม USDT เหรียญทางเลือกของอาร์เจนตินานั้นมีประวัติที่ซับซ้อน Tether ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ไม่ค่อยมั่นใจในการดำเนินงานภายใน ไม่เคยทำการตรวจสอบ และไม่เปิดเผยว่าธนาคารใดใช้ ในปี 2021 CFTC และอัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์กบังคับให้ Tether จ่ายค่าปรับ 41 ล้านดอลลาร์และ 18.5 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ เนื่องจากการอ้างว่า USDT ผูกกับดอลลาร์สหรัฐอย่างเป็นเท็จแบบตัวต่อตัว ในประเทศที่ยังคงประสบปัญหาอัตราเงินเฟ้อสามหลัก ดูเหมือนว่าธงสีแดงเหล่านี้ไม่ดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้มากพอ

ความเสี่ยงไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น แต่ยังรวมถึงการแลกเปลี่ยนและตลาดที่ให้บริการในอาร์เจนตินาด้วย Forbes จัดอันดับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่น่าเชื่อถือที่สุด 20 อันดับของโลกในเดือนพฤษภาคม และผู้ให้บริการสกุลเงินดิจิทัลห้าอันดับแรกของอาร์เจนตินา ได้แก่ Binance, eToro, BingX, HTX และ Bitget ไม่ได้ถูกรวมไว้ด้วย เนื่องจากขาดการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบภายในประเทศ Binance เป็นเว็บไซต์แลกเปลี่ยนที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด โดยมีปริมาณการเข้าชมจากอาร์เจนตินามากกว่าประเทศอื่นๆ แต่ Binance ไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับชาติ ไม่ต้องพูดถึงหน่วยงานกำกับดูแลในท้องถิ่นเลยด้วยซ้ำ

การแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดโดยชาวอาร์เจนตินา

แหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ Binance

การทำธุรกิจกับ Binance มีความเสี่ยงแค่ไหน? เรารู้ว่าก่อนหน้านี้ Binance ยอมรับว่าละเมิดกฎเกณฑ์การฟอกเงินของสหรัฐฯ เป็นผลให้ต้องจ่ายค่าปรับ 4.3 พันล้านดอลลาร์และยอมรับการตรวจสอบระยะยาวโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด การสอบสวน Binance ก่อนหน้านี้ของ Forbes ยังเผยให้เห็นว่ายอดคงเหลือในบัญชีออนไลน์ของลูกค้าไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากคำพูดสุดท้ายเกี่ยวกับโทเค็นที่พวกเขาถือนั้นมาจากหนังสือภายในของบริษัท ซึ่งไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ (หมายเหตุผู้แปล: Binance ได้เผยแพร่ หลักฐานการสำรอง ) บริษัทเคยโอนเงินนอกการแลกเปลี่ยนเพื่อเป็นหลักประกันในการออกเหรียญ stablecoin อย่างไรก็ตาม การทำงานเพื่อผลประโยชน์ของ Binance ก็คือมันไม่ได้ล้มละลาย สามารถจัดการกับการถอนเงินของลูกค้าได้เป็นส่วนใหญ่ และยังคงดำเนินการได้ตามปกติ

เป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนชาวอาร์เจนติน่าโดยเฉลี่ยหรือนักลงทุนมือใหม่คนอื่นๆ ที่จะเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้ Fernando Apud วิศวกรซอฟต์แวร์ที่อาศัยอยู่ในจังหวัด Tucumán ทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ทำการประเมินไซต์ เช่น บริษัทท้องถิ่น Cocos Capital และไซต์ Binance ที่ใหญ่และซับซ้อนมากขึ้น แม้ว่าเว็บไซต์เหล่านี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสะดวกสบายเป็นจุดขายหลัก แต่เขาพบว่าแม้แต่เว็บไซต์ขนาดใหญ่อย่าง Binance ก็ไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยข้อมูลพื้นฐาน เช่น เว็บไซต์เหล่านั้นได้รับการจดทะเบียนเพื่อทำธุรกิจในอาร์เจนตินาหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของบริษัทจริงๆ

เมื่อ Forbes ถาม Rose Zimler จากทีมสื่อสารภาษาสเปนของ Binance เกี่ยวกับสถานะของ Binance ในอาร์เจนตินา เธอกล่าวว่าบริษัท “มีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่” แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนในอาร์เจนตินา เธอไม่ได้บอกว่าเหตุใดเธอไม่ลงทะเบียนหรือตั้งใจว่าจะลงทะเบียนหรือไม่ เธอบอกว่า Binance มีใบอนุญาต 18 ใบทั่วโลก

Binance ไม่ได้อยู่คนเดียว ไม่มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอื่น ๆ ของอาร์เจนตินาที่ลงทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งชาติ (CNV) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของประเทศ โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะบอก Forbes ว่าพวกเขาสมควรได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเพราะพวกเขามีประวัติการดำเนินงานที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว Pablo Monti แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ BingX พูดในนามของทีมสื่อสารของ Exchange ปฏิเสธที่จะเปิดเผยลักษณะของการปฏิบัติตามกฎระเบียบของแพลตฟอร์มในละตินอเมริกา แต่เขาบอกกับ Forbes เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมว่า “ในขณะที่เราเฉลิมฉลองครบรอบหกปีของเรา BingX กำลังขยายขอบเขตต่อไป การปรากฏตัวในอาร์เจนตินาและตุรกี เวียดนาม และประเทศอื่นๆ กำลังขยายตัว” โฆษกของบริษัท eToro ไม่ได้กล่าวถึงปัญหาเรื่องการไม่จดทะเบียน อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า: “ในฐานะธุรกิจที่ควบคุมโดยหน่วยงานทางการเงินในเขตอำนาจศาลหลายแห่งทั่วโลก eToro มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับที่บังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ตนดำเนินการอยู่” Bitget เป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่มีชื่อเสียงระดับโลกสำหรับฟุตบอลอาร์เจนตินา ลีโอเนล เมสซี สตาร์ดังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Maximiliano Hinz จาก Bitget กล่าวว่า "เท่าที่ฉันรู้ ไม่มีข้อกำหนดด้านลิขสิทธิ์ในประเทศละตินอเมริกาที่ Bitget ดำเนินการอยู่" สุดท้ายนี้ HTX ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับ Justin Sun ไม่ตอบกลับอีเมลสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินงานในอาร์เจนตินา

นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแล้ว ชาวอาร์เจนติน่ายังสามารถใช้บริษัทในประเทศเพื่อใช้สกุลเงินดิจิทัลได้อีกด้วย บริษัทเหล่านี้อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อและใช้สกุลเงินดิจิทัลผ่านบัตรเติมเงิน เช่น Lemon และ Buenbit อย่างไรก็ตาม บริษัทเหล่านี้ก็มีช่องโหว่ด้านกฎระเบียบเช่นกัน ในรายงานล่าสุดของ Chainalysis Latin America Alfonso Martel Seward หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติตามกฎระเบียบของ Lemon Cash กล่าวว่าบริษัทของเขามีผู้ใช้ชาวอาร์เจนตินาประมาณ 2 ล้านคน จากผู้ใช้ crypto ทั้งหมดประมาณ 5 ล้านคนในประเทศ

ชาวอาร์เจนตินามีเงินเปโซเพียงพอแล้ว การอ่อนค่าของเงินเปโซได้ก่อให้เกิดปัญหาอย่างมากนับตั้งแต่ประเทศยุติการตรึงค่าเงินดอลลาร์แบบหนึ่งต่อหนึ่งเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2545 หลายปีของการใช้จ่ายมากเกินไปและการผิดนัดชำระหนี้ได้กดดันเงินเปโซตั้งแต่นั้นมา โดยเงินเปโซร่วงลงเหลือประมาณ 4 ต่อดอลลาร์ในหนึ่งทศวรรษหลังจากที่ตรึงค่าเงินไว้ และในขณะที่ไวรัส Covid-19 ครอบงำในต้นปี 2563 เหลือ 64 เปโซ

ตามข้อมูลของ Bloomberg แม้ว่าค่าเงินเปโซที่อ่อนค่าลงจะกระตุ้นการค้าต่างประเทศของประเทศในช่วงต้นศตวรรษนี้ แต่ผลประโยชน์นี้ก็ค่อยๆ หายไปหลังจากปี 2009 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ปรับอัตราเงินเฟ้อลดลงเฉลี่ย 0.1% ต่อปี เพิ่มขึ้นในเวลาเพียงสี่ปี

ทำไมอาร์เจนตินาถึงมีปัญหา? นอกจากภาครัฐที่มีพนักงาน 3.5 ล้านคนและขาดความมุ่งมั่นต่อความเข้มงวดทางการคลังแล้ว ปัจจัยภายนอก เช่น รูปแบบสภาพอากาศ (ลานีญา) ยังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการส่งออกธัญพืชซึ่งเป็นแหล่งที่มาของสกุลเงินแข็งหลักของประเทศในปีที่แล้วและปีนี้ ปี. อาร์เจนตินาเผชิญภัยแล้งครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่พืชผลทั้งสามชนิด ได้แก่ ถั่วเหลือง ข้าวโพด และข้าวสาลี ล้มเหลว” ฮูลิโอ คัลซาดา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยทางเศรษฐกิจ ของการแลกเปลี่ยนทางการเกษตรหลักของประเทศ กล่าว “เราทุกคนกำลังรอฝน” และผลผลิตพืชผลที่ลดลงหมายถึงรายได้ที่ลดลง ส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้น ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น มิลลีย์ระบุอย่างชัดเจนในสุนทรพจน์วันเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2023 ว่าเขาวางแผนที่จะยุติแนวทางก่อนหน้านี้ “ในวันนี้ เราได้ฝังกลบความล้มเหลวและการต่อสู้ดิ้นรนที่ไร้จุดหมายมานานหลายทศวรรษ” เขากล่าว "ไม่มีทางหวนกลับ" ในเวลานั้น อัตราเงินเฟ้อรายปีของอาร์เจนตินาสูงถึง 143% การขาดดุลการค้าสูงถึง 43 พันล้านดอลลาร์ และการขาดดุลทางการคลังเท่ากับ 3.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หกเดือนหลังจากที่มิลลีย์เข้ารับตำแหน่ง อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ประเทศกลับเกินดุลการค้าเป็นเวลาหกเดือนติดต่อกัน และเกินดุลทางการคลัง 1.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

มิไลกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อพลิกฟื้นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของอาร์เจนตินา มาตรการของเขา ได้แก่ การเลิกจ้างพนักงานภาครัฐหลายหมื่นคน การระงับงานสาธารณะ ยกเลิกการอุดหนุนด้านพลังงาน การขึ้นภาษี และลดส่วนแบ่งรายได้ระหว่างรัฐบาลกลางและจังหวัด มาตรการดังกล่าวพบกับการต่อต้านครั้งใหญ่ ทำให้เกิดการประท้วงบนท้องถนน และการคว่ำมาตรการเข้มงวดของมิลลีย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างจำกัดในรัฐสภา มาตรการทางการคลังชุดหนึ่งที่ลดขนาดลงผ่านวุฒิสภาอย่างหวุดหวิดในเดือนมิถุนายน และตอนนี้จะไปที่สภาเพื่อพิจารณา

แนวทางอนุรักษ์นิยมของ Milley อาจเป็นปริมาณมากที่ประเทศต้องการเพื่อก้าวไปข้างหน้าในที่สุด แต่การขาดน้ำตาลหนึ่งช้อนอาจทำให้กลืนยาได้ง่ายขึ้น

แม้ว่าโชคลาภของอาร์เจนตินาจะดีขึ้น แต่การจัดการทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาดมานานหลายทศวรรษทำให้ผู้คนยังคงแห่กันไปที่เงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษหรือดิจิทัล แต่รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรมากนักเพื่อปกป้องประชาชน

มีกฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอลอะไรบ้างในอาร์เจนตินา? เมื่อกว่าสามเดือนที่ผ่านมา CNV ได้ประกาศข้อกำหนดการลงทะเบียนสำหรับ "ทุกคนที่ใช้หน้าเว็บ โซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือวิธีการอื่นเพื่อส่งโฆษณาไปยังบุคคลที่อาศัยอยู่ในอาร์เจนตินา" และรับเงินผู้ใช้ "ผ่านการใช้เทคโนโลยีใดๆ" ไม่มีกำหนดเวลาในการลงทะเบียน โรเบิร์ต อี ซิลวา ประธาน CNV กล่าวว่า "สถาบันที่ไม่ได้จดทะเบียนจะไม่สามารถดำเนินการในประเทศได้"

ข้อกำหนดนี้ไม่ซับซ้อนหรือยุ่งยากสำหรับผู้ลงทะเบียน อย่างไรก็ตาม บริษัทสกุลเงินดิจิทัลจำนวน 55 แห่งในการศึกษาของ Forbes ดำเนินงานในอาร์เจนตินา แต่ไม่มีบริษัทใดจดทะเบียนเลยหลังจากกฎดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 มีนาคมเป็นเวลาสามเดือน ณ วันที่ 20 มิถุนายน ทะเบียนสาธารณะเผยให้เห็นบริษัท 48 แห่งที่จดทะเบียน ซึ่งส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและดำเนินงานในท้องถิ่น เจ้าหน้าที่อาร์เจนตินาไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นซ้ำแล้วซ้ำอีก

การจดทะเบียนเป็นเพียงก้าวเล็กๆ และเห็นได้ชัดว่ายังไม่เพียงพอสำหรับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 22 ของโลก โดยมี GDP 633 พันล้านดอลลาร์ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลถือกำเนิดขึ้นในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ที่ปะทุขึ้นในสหรัฐอเมริกาในปี 2551 แต่มันก็มีความหวังไม่แพ้กันหาก Bitcoin เริ่มต้นในประเทศแถบแอนเดียนนี้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อเรื้อรังและความไม่มั่นคงทางการเมือง

ลิงค์เดิม