เขียนโดย: Ethereum Optimism
แปลโดย: หลู่เจียงเฟย

ทีม Optimism มองหาวิธีแก้ปัญหามานานแล้วว่าจะจัดหาเงินทุนให้กับสินค้าสาธารณะในลักษณะที่ยั่งยืนได้อย่างไร และด้วยการออกแบบที่ยอดเยี่ยมโดย Vitalik Buterin ทำให้ตอนนี้เรามีโครงสร้างทดลองแรกของเรา

หากคุณต้องการสร้างโครงการที่มีความทะเยอทะยานโดยไม่ให้รูปแบบธุรกิจ การก่อสร้างโครงการจะเป็นเรื่องยากมากอย่างแน่นอน เนื่องจากคุณไม่สามารถหาเงินทุนได้ คุณจึงไม่สามารถดึงดูด/จ้างผู้มีความสามารถที่ดีที่สุดได้ และการเอาชนะความยากลำบากและอุปสรรคในการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่นั้นยากยิ่งกว่า

เป็นที่ทราบกันดีว่าแม้จะมีเงินลงทุนที่เพียงพอ แต่สตาร์ทอัพก็ต้องพบกับความท้าทายที่รุนแรงอื่นๆ อีกมากมาย และคนส่วนใหญ่ก็ต้องพบกับจุดจบของความล้มเหลว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมีข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งเมื่อลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ นั่นคือความเป็นไปได้ในการออก ทางออก หมายความว่าสถาบันการลงทุน/นักลงทุนแปลงเงินลงทุนจากรูปแบบทุนเป็นรูปแบบทุนเมื่อกิจการร่วมลงทุนค่อนข้างครบกำหนดหรือไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ตระหนักถึงการเพิ่มมูลค่าของทุนหรือหลีกเลี่ยงและลดการสูญเสียทรัพย์สิน กลไกและการสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง การเตรียมการของสถาบันยังสามารถสร้างแรงจูงใจสำหรับการระดมทุนในระยะเริ่มต้น การรับสมัคร สิ่งจูงใจ และการปรับเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม "แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์" นี้ไม่มีอยู่จริงสำหรับโครงการที่ไม่หวังผลกำไร FOSS และโปรโบโน

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่ BUILDers ที่เก่งและเก่งที่สุดหลายคน แม้แต่คนที่ไม่มีเป้าหมายสูงสุดในการทำเงิน ก็ลงเอยด้วยการประนีประนอมและมุ่งสู่เส้นทางที่แสวงหาผลกำไร สำหรับหลายๆ คน ไม่ใช่เรื่องของความร่ำรวย แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความยุติธรรม เหตุใดจึงต้องพยายามสร้างซอฟต์แวร์ฟรีที่คนอื่นสามารถทำกำไรมหาศาลได้ โดยที่ตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรเลย

แล้ว... จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าจู่ๆ โครงการสินค้าสาธารณะสามารถถูกเพิกถอนได้? ทางออกขึ้นอยู่กับปริมาณสินค้าสาธารณะที่โครงการสร้าง ไม่ใช่แค่กำไรที่ทำได้ เรากำลังเห็นการลงทุนและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชนหรือไม่? สำหรับองค์กรไม่แสวงผลกำไรเหล่านั้น เราสามารถช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จแทนที่จะเฝ้าดูพวกเขาอ่อนระโหยโรยแรงบนขอบของการดำรงอยู่ได้หรือไม่?

คำอธิบายภาพ

หมายเหตุ: ส่วนนี้เป็นแนวคิดของ Vitalik Buterin เกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนสำหรับผลิตภัณฑ์สาธารณะของ DAO โดยมีผลย้อนหลัง

วิธีการดำเนินการจัดหาเงินทุนผลิตภัณฑ์สาธารณะ DAO ที่มีผลย้อนหลัง?

หลักการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังแนวคิดของการจัดหาเงินทุนสำหรับสินค้าสาธารณะที่มีผลย้อนหลังนั้นค่อนข้างเรียบง่าย: การตกลงในสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลง่ายกว่าการตกลงในสิ่งที่จะใช้ได้ผลในอนาคต การเห็นด้วยในบางสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลมักเป็นที่มาของความขัดแย้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นความขัดแย้งในตัวมันเอง ดังนั้นจึงยังคงมีอยู่ผ่านกลไกการลงคะแนนเสียงที่มีอยู่ (เช่น การลงคะแนนแบบกำลังสอง หรือแม้กระทั่งการลงคะแนนปกติ) การตัดสินระดับสูงที่ดี แต่ยากกว่าที่จะเห็นด้วยกับสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคต สิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้สำหรับอุตสาหกรรมที่แสวงหาผลกำไรคือการสร้างระบบนิเวศที่ผู้คนสามารถสร้างสตาร์ทอัพและดึงดูดนักลงทุนให้ลงทุนในพวกเขา และในที่สุดก็ชำระคืนในเวลาที่เหมาะสม ดังนั้น แทนที่จะคิดค้นกลไกใหม่ทั้งหมด จะเป็นการดีกว่าหากสร้างกลไกที่เหมือนกัน แต่กลไกนี้เป็น "เวอร์ชันสำหรับสินค้าสาธารณะ"

Decentralized Autonomous Organization (DAO) ขอเรียกว่า "Results Oracle" ซึ่งให้เงินทุนสำหรับโครงการที่ไม่แสวงหากำไร ในระยะยาว ผลลัพธ์ของ Oracles จะได้รับเงินทุนผ่านค่าธรรมเนียมโปรโตคอล (เช่น การประมูลแบบเรียงลำดับจะเป็นตัวเลือกหากดำเนินการโดยโครงการ L2) อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับ DAO ที่ให้เงินทุนสนับสนุนผลิตภัณฑ์สาธารณะอื่นๆ Results Oracle สามารถให้ทุนแก่โครงการย้อนหลังได้ ตราบใดที่ Results Oracle ระบุโครงการว่า "ได้เริ่มให้คุณค่า" โครงการนี้จึงจะได้รับรางวัล

อันที่จริงแล้ว การออกแบบ "Oracle (เครื่อง oracle)" นี้เป็นปัญหาที่ซับซ้อนมาก และปัญหามากมายมีอยู่จริงมาเป็นเวลานาน เช่น วิธีการไร้เดียงสา เช่น การลงคะแนนโทเค็น (ดูบทความสองบทความของ Vitalik Buterin "Notes on Block Governance" และ "ธรรมาภิบาล ตอนที่ 2: ระบอบประชาธิปไตยยังคงแย่") ดังนั้นเราจึงควรแก้ไขปัญหานี้ซ้ำๆ จะดีกว่า การเปิดตัวครั้งแรกที่เรียบง่าย อาจมาจากกลุ่มผู้มีส่วนร่วมระยะยาวที่มีทักษะประมาณ 20-50 คนในระบบนิเวศที่ดำเนินการริเริ่ม แผนนี้จะปรับปรุงเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อความเข้าใจของเราเกี่ยวกับการกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจดีขึ้น

ผลลัพธ์ Oracle สามารถส่งรางวัลไปยังที่อยู่ใดก็ได้ ต่อไปนี้เป็นแนวคิดที่เป็นไปได้ว่าที่อยู่ใดที่สามารถส่งรางวัลไปให้:

• บุคคลหรือองค์กรอิสระ: รับผิดชอบหลักในการทำให้โครงการเป็นจริง

• สัญญาอัจฉริยะ: ซึ่งกำหนดแผนการแจกจ่ายโทเค็นที่ตายตัว เช่น การแจกจ่ายโทเค็นให้กับบุคคลและ/หรือองค์กรต่างๆ ตามเวลาที่บริจาค และ/หรือเงินสมทบในโครงการ

• โทเค็นโครงการ: อุปทานของมันถูกแจกจ่ายให้กับบุคคลและ/หรือองค์กรอย่างน้อยหนึ่งรายที่สละเวลาและ/หรือเงินให้กับโครงการ และโทเค็นโครงการนั้นสามารถแลกเปลี่ยนได้

ในกรณีแรกและกรณีที่สอง ผลลัพธ์ Oracle จะส่งเงินไปยังผู้รับเท่านั้น ทั้งหมดนี้สามารถนำไปใช้ได้ในแง่ของแผนการแจกจ่ายโทเค็นและสัญญา กล่าวคือ: รับเงินและแจกจ่ายเงินทันทีให้กับผู้รับตามการกระจายเฉพาะ

สถานการณ์ที่สาม Project Tokens เป็นแนวคิดที่รุนแรงกว่า โดยพื้นฐานแล้วเป็นการสร้างตลาดการทำนายสำหรับโครงการที่ Oracle Results ตั้งใจจะให้ทุน Oracle ผลลัพธ์สามารถใช้เงินทุนของตัวเองเพื่อกำหนดราคาขั้นต่ำสำหรับโทเค็น: หาก Oracle ผลลัพธ์จัดสรรรางวัลจำนวนหนึ่ง (เช่น $X) และโครงการมีการจัดหาโทเค็นทั้งหมดเป็น N จากนั้นจะออกค่าคอมมิชชั่น A ที่รอดำเนินการ คำสั่งซื้อเพื่อซื้ออุปทานทั้งหมดของโทเค็นในราคา "X/N"

คำอธิบายภาพ

ด้านบน: ตัวอย่างเส้นทางราคา

เนื่องจากใครก็ตามสามารถสร้างโทเค็นโครงการและแผนการแจกจ่ายโทเค็นสำหรับอะไรก็ได้ ระดับของการสนับสนุนภายในโครงการอาจแตกต่างกัน ส่งผลให้มีรูปแบบการกระจายโทเค็นที่แข่งขันกันหลายรายการ (หรือโทเค็นโครงการ) สำหรับโครงการเดียวกัน ในกรณีนี้ Oracle ผลลัพธ์ต้องตัดสินใจว่าโปรเจ็กต์ใดมีมูลค่า และโทเค็นโปรเจ็กต์ใดหรือโปรเจ็กต์การกระจายโทเค็นใดจะประเมินผลงานได้ดีกว่ากัน ตรงไปตรงมา สถานการณ์นี้ (การตัดสิน) ถูกหลีกเลี่ยงโดยสิ้นเชิงในปัจจุบัน ดังนั้นคุณได้แต่หวังว่าจะจำเป็นในกรณีพิเศษ

ขอบคุณ Vitalik Buterin!

การจัดหาเงินทุนในขั้นตอนรอบเมล็ดพันธุ์

ข้างต้น เราเสนอระบบนิเวศหลายระดับ แต่ถ้าคุณต้องการสร้างระบบนิเวศใหม่อย่างรวดเร็ว สิ่งที่ยากที่สุดคือระยะเริ่มต้น ดังนั้นจะช่วยระบบนิเวศในขั้นตอนนี้ได้อย่างไร ในความเป็นจริงมีสามกลยุทธ์ที่สามารถนำมาใช้:

• ระดมทุนผ่านโครงการและโครงการทุนมูลนิธิ

• ขายโทเค็นผลิตภัณฑ์สาธารณะของโครงการบน Uniswap

• สรุปแล้ว

สรุปแล้ว

รูปแบบที่ไม่แสวงหากำไรอาจเหมาะสมกว่าสำหรับการรักษาฐานรหัสที่สร้างขึ้นแล้ว แต่โครงการเริ่มต้นนั้นยากมากในระยะแรก การเริ่มต้นส่วนใหญ่ไม่มีกลไกการออกรูปแบบใด ๆ และเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าสำหรับฟรี โครงการซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส (FOSS) ขึ้น โครงการเหล่านี้มักจะขับเคลื่อนไปอย่างช้าๆ โดยกลุ่มเล็กๆ ที่มีความทุ่มเทสูงซึ่งเต็มใจทำงานเพราะพวกเขารักมันจริงๆ ในทางกลับกัน การบริจาคไม่ใช่แหล่งเงินทุนที่มั่นคงเพียงพอสำหรับทีมในการประเมินเส้นทางการพัฒนาที่ตามมาอย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น เงินช่วยเหลือยังไม่เพียงพอที่จะให้เงินเดือนที่แข่งขันได้ ทำงานในโครงการเพียงเพราะคุณรัก - "เพียงสาเหตุ" นี้ไม่ได้ทำให้คุณมีเงินมากพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ

ผู้คนเต็มใจสนับสนุนการอุทิศตนอยู่เสมอ และแม้กระทั่งยกย่องผู้ให้ว่าเป็นฮีโร่ แต่พวกเขาได้สร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ และแม้แต่เราแต่ละคนก็กลายเป็น "ผู้ใช้ที่กระตือรือร้น" ของผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาพัฒนาขึ้น เมื่อพิจารณาแล้ว เราไม่ควรคาดหวังให้พวกเขาได้รับเงินด้วยหรือ?

ด้วยการจัดเตรียมกลไกการออกจากโครงการซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส (OSS) เราสามารถดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ "ฮีโร่" ไม่ใช่เรื่องดีหรือที่ตอนนี้โครงการโอเพ่นซอร์สสามารถทำกำไรได้โดยการทำงานย้อนกลับจาก "เปิดตัว"