หมายเหตุบรรณาธิการ: บทความนี้มาจากCrypto Valley สด (รหัส: cryptovalley)หมายเหตุบรรณาธิการ: บทความนี้มาจาก

Crypto Valley สด (รหัส: cryptovalley)

, ผู้แต่ง: Ryan Todd, ผู้แปล: Li Hanbo, พิมพ์ซ้ำโดย Odaily โดยได้รับอนุญาต"ล็อค"การพัฒนาของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นรวดเร็วมาก และการพัฒนาในไตรมาสเดียวสามารถเปรียบเทียบได้กับการพัฒนาของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมตลอดทั้งปี การทำซ้ำและความเร็วในการพัฒนาของ DeFi ในฤดูร้อนนี้ทำให้แม้แต่สิ่งที่ไม่สำคัญที่สุดก็ตกตะลึง ผู้เข้าร่วมตลาด

ในเดือนมิถุนายน

ล็อค

จำนวนเงินทั้งหมดในแอปพลิเคชันและโปรโตคอล DeFi ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ และสูงสุดก่อนหน้านี้ตั้งไว้ที่ "312" ในเวลาเพียงสามเดือนนับจากนั้น ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบแปดเท่า อ้างอิงจาก DeFi Pulse"ในทำนองเดียวกัน เราได้เห็นการระเบิดของตลาดเงิน (การยืม) และโปรโตคอล DEX ที่หลากหลาย ปัจจุบันมีที่อยู่เฉพาะมากกว่า 450,000 รายการบนโปรโตคอล DeFi (Dune Analytics - Richard Chen) แม้ว่าอาจมีที่อยู่หลายแห่งสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันที่โต้ตอบกับโปรโตคอลเหล่านี้ แต่จำนวนนี้ยังคงเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน ในขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขาย DEX แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนสิงหาคม โดยทะลุ 11 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 4.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม ที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้น ปริมาณ DEX ที่พุ่งสูงขึ้นมาจากการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ เนื่องจากอัตราส่วนของปริมาณสปอตบนการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ต่อการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ทำสถิติสูงสุดใหม่อยู่ที่ 6% ในเดือนสิงหาคม (3.95% ในเดือนกรกฎาคม, 2.1% ในเดือนมิถุนายน) ผู้นำตลาด DEX Uniswap โดยพิจารณาจากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน มีปริมาณการซื้อขายรวมเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 กันยายน ซึ่งแซงหน้าปริมาณการซื้อขายทั้งหมดของ Coinbase Pro ในวันนั้น"ดังที่ Steven Zheng กล่าวไว้เมื่อเดือนที่แล้ว มีแนวโน้ม "Frakenstein Code" ในเดือนสิงหาคม เนื่องจากโครงการจำลองรหัสเกิดขึ้นในพื้นที่ DeFi โปรโตคอลการทำฟาร์มผลผลิตใหม่เป็นไปตามสามประเด็นที่แตกต่างกัน: 1) การใช้การทำฟาร์มผลผลิตเพื่อจูงใจให้เกิดการสะสมทุน 2) การใช้คุณสมบัติการรีเบสของ AMPL เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ "เศรษฐกิจ Ponzi" ที่เป็นเกมเพื่อจูงใจการทำธุรกรรม 3) การใช้มีมและอีโมจิอาหารเพื่อดึงดูดความสนใจมากขึ้น .

การเติบโตที่ไม่ธรรมดาของปริมาณการทำธุรกรรมและกระแสเงินทุน (การใช้งาน) ของข้อตกลงเหล่านี้ทำให้ DeFi

รายได้

ดังนั้นฟิลด์ DeFi มาถึงทีละขั้นตอนได้อย่างไร มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นในตลาด DeFi ในช่วงซัมเมอร์นี้

โพสต์นี้ช่วยจัดระเบียบเหตุการณ์สำคัญบางอย่างใน DeFi ในช่วงฤดูร้อนนี้ ในขณะเดียวกันก็เน้นงานวิจัยของ The Block ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับโปรโตคอลต่างๆ ภายใน DeFi

รายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลง เหตุการณ์สำคัญ และการวิจัยเพิ่มเติมโดย The Block จะแสดงตามลำดับเวลาโดยเริ่มจากไทม์ไลน์

ชื่อเรื่องรอง

การเปิดตัวโทเค็นการกำกับดูแล COMP เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Compound ในการบรรลุการกระจายอำนาจแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยการขจัดความเสี่ยงที่เกิดจากผู้เล่นหลัก ทำให้ชุมชน Compound สามารถชั่งน้ำหนักการอัปเดตโปรโตคอลและสร้างรายได้หลังจากช่วงบัฟเฟอร์ของการกระจายอำนาจเต็มรูปแบบ

ตามกำหนดการเผยแพร่ในเวลานั้น COMP ประมาณ 2,880 รายการได้รับการจัดสรรไปยังตลาดให้กู้ยืมแปดแห่งใน Compound ทุกวัน รวมถึง ETH, DAI, USDC, USDT, BAT, REP, WBTC และ ZRX จำนวนของ COMP ที่ได้รับจากแต่ละตลาดเป็นสัดส่วนกับดอกเบี้ยที่สะสมในตลาด และผู้ใช้จะได้รับ COMP ที่สอดคล้องกันตามเวลาจริงตามยอดคงเหลือใน Compound แม้ว่าเดิมที Compound จะเป็นผู้บุกเบิกโดย Fcoin การแลกเปลี่ยน crypto ที่เลิกใช้แล้ว แต่ปัจจุบันมีความเชื่ออย่างกว้างขวางในชุมชนว่า Compound นิยมการใช้การขุดสภาพคล่องเพื่อออกโทเค็นดั้งเดิม

เป็นที่น่าสังเกตว่าภายในหนึ่งวันของการทำธุรกรรมโทเค็น Compound โปรโตคอลได้รับรางวัลที่หนึ่งในมูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่ถูกล็อคในโครงการ DeFi ทั้งหมด (20 มิถุนายน) ณ เวลานั้น สิ่งนี้คิดเป็น 32% ของสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการในภาคส่วน DeFi ตามข้อมูลของ DeFi Pulse แต่มันจะไม่นาน ณ วันที่ 14 กันยายน ปัจจุบัน Compound เป็นโปรโตคอล DeFi ที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ตามมูลค่าที่เก็บไว้ ตามข้อมูลของ DeFi Pulse

ชื่อเรื่องรอง

หลังจากความสำเร็จของ Compound และ COMP แล้ว Balancer (ผู้สร้างตลาดอัตโนมัติ n มิติ) ได้เปิดตัวแผนการขุดสภาพคล่องของตนเอง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน โทเค็น BAL เริ่มซื้อขายบน Ethereum mainnet

Balancer เปิดตัวโปรแกรมขุดสภาพคล่องเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ช่วยให้ผู้ให้บริการสภาพคล่องบนแพลตฟอร์มสามารถเริ่มรับ BAL โดยการจัดหาโทเค็นให้กับโปรโตคอล ในขณะนั้น ทีมงานชี้แจงว่าผู้ใช้จะไม่ได้รับ BAL จริง ๆ จนกว่าจะผ่านไปสองสามสัปดาห์ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการหารายละเอียดขั้นสุดท้ายของการปรับใช้สัญญาอัจฉริยะ BAL

ก่อนการเปิดตัวโทเค็น BAL มีผู้ให้บริการสภาพคล่องอิสระ (LPs) น้อยกว่า 70 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 436 รายในวันที่สองของการเปิดตัวโทเค็น ณ วันที่ 14 กันยายน ปัจจุบัน BAL มีมากกว่า 1,400 LPs

กรกฎาคม - Nexus Mutual

Nexus Mutual เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2019 เป็นกลุ่มเงินทุนที่สมาชิกเป็นเจ้าของซึ่งรับประกันข้อบกพร่องของสัญญาอัจฉริยะ โทเค็นโครงการ NXM ใช้เส้นกราฟพันธบัตรเพื่อจูงใจให้ซื้อคืนทุนที่มีประสิทธิภาพไปยังกลุ่ม ณ เวลาใด ๆ โดยขึ้นอยู่กับข้อกำหนดด้านเงินทุนขั้นต่ำ

ด้วยมูลค่ารวมที่ล็อคอยู่ใน DeFi ตอนนี้เกิน 8 พันล้านดอลลาร์ ความคุ้มครองของ Nexus Mutual จึงทะลุ 120 ล้านดอลลาร์ (Nexus Tracker) เป็นที่น่าสังเกตว่าการครอบคลุมของ Nexus Mutual มีมูลค่าน้อยกว่า 10 ล้านเหรียญเมื่อสองเดือนก่อน

ชื่อเรื่องรอง

ในช่วงต้นปี 2020 yearn.finance เป็นโปรโตคอลง่ายๆ ที่รวบรวมโปรโตคอลการให้ยืมที่แตกต่างกัน (เช่น Compound, Aave และ dYdX) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผลตอบแทนให้กับผู้ใช้

โปรโตคอลเวอร์ชันเริ่มต้นไม่มีโทเค็นและไม่มีฟังก์ชันมากมาย ผู้ใช้ฝากเงินในสัญญาอัจฉริยะที่วิเคราะห์ผลตอบแทนของตลาดการให้กู้ยืมต่างๆ จากนั้นจะปรับสมดุลของเงินทุนโดยอัตโนมัติเพื่อให้ทันกับกลยุทธ์ที่ดีที่สุด

สินทรัพย์ภายใต้การจัดการบนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 10 ล้านดอลลาร์เป็นมากกว่า 607.5 ล้านดอลลาร์ในเดือนที่ผ่านมา เปิดตัวเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2020 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม มูลค่าตลาดของ YFI เพิ่มขึ้นจาก 0 ดอลลาร์เป็น 295.5 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมูลค่าตามราคาตลาดต่ำกว่า 800 ล้านดอลลาร์

ชื่อเรื่องรอง

ส.ค.-Curve

Curve เป็นแพลตฟอร์มผู้ดูแลสภาพคล่องอัตโนมัติสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ที่มั่นคง คุณสมบัติหลักที่อยู่เบื้องหลัง Curve คือการเปลี่ยนสูตรการกำหนดราคาสำหรับสินทรัพย์ในกลุ่มสภาพคล่อง Curve สามารถเสนอการคลาดเคลื่อนน้อยลงสำหรับธุรกรรมระหว่างสินทรัพย์ที่มีราคาค่อนข้างคงที่เช่น Stablecoins

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม การเปิดตัวโทเค็น Curve (CRV) ดูเหมือนจะถูกบังคับโดยชุมชน หลังจากที่นักพัฒนาที่ไม่ระบุชื่อเรียกใช้และปรับใช้สัญญาอัจฉริยะต่อหน้าทีม Curve โดยปราศจากความรู้

เนื่องจากมีกลุ่มเหรียญ Stablecoin ขนาดใหญ่ Curve จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้คนจำนวนมากเลือกซื้อขาย Stablecoin และ Bitcoin สิ่งนี้สร้างโอกาสแบบทบต้นสำหรับกลุ่มชนกลุ่มน้อยของ Curve

สองวันหลังจากเปิดตัวโทเค็น Curve ก็กลายเป็นโปรโตคอล DeFi ตัวที่สามที่มีมูลค่ารวมล็อคอยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน ณ วันที่ 14 กันยายน อยู่ที่ระดับ 1 พันล้านดอลลาร์

ชื่อเรื่องรอง

สิงหาคม - การเงินแย้ม

Yam ดูคล้ายกับ Ampleforth (สกุลเงินราคายืดหยุ่นที่ปรับอุปทานเป็นอุปสงค์) แต่ด้วยสมมติฐานที่ว่าหลังจากโปรโตคอลทำการรีเบสเชิงรุก (ดู: การขยายอุปทาน) ก็จะใช้ส่วนหนึ่งของอุปทานนั้นเพื่อซื้อ yCRV ตะกร้า Stablecoin ที่สร้างผลตอบแทนบนโปรโตคอล Curve

สองวันต่อมา โปรเจ็กต์จะล้มเหลวเนื่องจากข้อผิดพลาดในการซื้อคืนที่ทีมไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้มูลค่าตลาดของมันเทศแต่ละรายการลดลงเหลือศูนย์ โดยขาดทุนสุทธิประมาณ $750,000 และโทเค็น yCRV ถูกล็อคตลอดไป

แต่จากนั้น Yam Finance ได้จัดตั้งการบริจาค Gitcoin เพื่อประสานงานการระดมทุนของชุมชนในการตรวจสอบสัญญาของ Yam เพื่อสนับสนุนการเปิดตัวของ Yam 2.0

สิงหาคม - Aave

โปรโตคอลตลาดเงินแบบกระจายอำนาจ Aave แซงหน้า MakerDAO ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งใน Total Value Lock (TVL) เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ปัจจุบันยังคงมีมูลค่าสินทรัพย์ดอลลาร์ที่ใหญ่ที่สุดในวันนี้ (14 กันยายน)

หลังจากกลายเป็นผู้นำรูปแบบการให้ยืมแบบ peer-to-peer โปรโตคอลตลาดเงินที่ใช้ Ethereum ยังคงเติบโตในอัตราที่น่าประทับใจ

ชื่อเรื่องรอง

กันยายน - Uniswap เป็น SushiSwap

SushiSwap เป็นส่วนแยกของ Uniswap v2 ซึ่งริเริ่มโดยนักพัฒนาที่ไม่ระบุชื่อ เขาแนะนำโทเค็นการกำกับดูแลที่เรียกว่า SUSHI หากผู้ให้บริการสภาพคล่อง (LP) เดิมพัน Uniswap LPtoken พวกเขาสามารถรับโทเค็นเหล่านี้ จากนั้นจึงจัดหาสภาพคล่องใน SushiSwap ในที่สุด