หมายเหตุบรรณาธิการ: บทความนี้มาจาก36 คริปทอนหมายเหตุบรรณาธิการ: บทความนี้มาจาก

36 คริปทอน"Blockchain, the amazing solution for almost nothing.", ผู้แปล: Ti Kewei เผยแพร่โดยได้รับอนุญาต

หมายเหตุบรรณาธิการ:

"Blockchain - วิธีแก้ปัญหาที่มีมนต์ขลังแต่ไร้ประโยชน์ นี่คือชื่อของบทความที่จัดทำโดยเว็บไซต์ข่าวคราวด์ฟันดิ้งของเนเธอร์แลนด์ - "ผู้สื่อข่าว" เมื่อเร็ว ๆ นี้เมื่อพูดถึงบล็อกเชน อุตสาหกรรมการเดินเรือ ระบบการเงิน รัฐบาล... มีอะไรอีกบ้างที่เปลี่ยนไม่ได้? ในความเป็นจริงความกระตือรือร้นส่วนใหญ่มาจากการขาดความตระหนักและความเข้าใจในสิ่งนั้น Blockchain เป็นวิธีแก้ปัญหา Blockchain เป็นเทคโนโลยีหนึ่งในหลาย ๆ เทคโนโลยี มันไม่ใช่เวทมนตร์"ต่อหน้ากลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พับ แล็ปท็อปของพวกเขาอยู่บนโต๊ะพับ คนหนึ่งปีนขึ้นไปบนเวทีที่ส่องสว่างด้วยแสงไฟสีม่วงอมน้ำเงิน"คนบล็อกเชนเจ็ดร้อยคน"ชายคนนั้นตะโกนบอกผู้ชมของเขา เขาชี้ไปที่โปรแกรมเมอร์ทุกคนในห้อง"การเรียนรู้ระหว่างเครื่อง..."

จากนั้นที่ด้านบนสุดของเสียงของเขา:

พลังงานเปลี่ยนผ่าน! สุขภาพดี! ความปลอดภัยสาธารณะและความปลอดภัย! อนาคตเงินบำนาญ!"นี่คือฉากในงาน Blockchaingers Hackathon ในปี 2018 ในเมือง Groningen ประเทศเนเธอร์แลนด์"โชคดีที่เรามีวิดีโอถ่ายทอดสดด้วย! และจากคำพูดของผู้บรรยาย มีบางอย่างที่ใหญ่มากกำลังเกิดขึ้นที่นี่ ก่อนหน้านี้ ในวิดีโอโปรโมตที่เล่นสด มีคนถามว่าพวกเขานึกภาพออกไหมว่าที่นี่ ตอนนี้ ในห้องนี้ พวกเขากำลังจะพบกับการเปลี่ยนแปลง

ชีวิตมนุษย์"วิธีแก้ปัญหา ในวิดีโอประกอบ Odaily ไหม้"จากนั้น Raymond Knops รัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ด้านการตกแต่งภายในก็มาถึงแฟชั่นเทคโนโลยี: เสื้อฮู้ดสีดำ เขาเป็นเหมือน"ตัวเร่งซุปเปอร์"ตัวตน (พระเจ้ารู้ว่ามันคืออะไร) มา

ทุกคนรู้สึกว่าบล็อคเชนจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอย่างมาก

รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า

ฉันแน่ใจว่าไม่ใช่ฉันคนเดียวที่สงสัย เพราะเห็นแก่ความดี ใครจะบอกฉันได้ว่าบล็อกเชนคืออะไร มันปฏิวัติแค่ไหน? มันแก้ปัญหาอะไร

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเขียนบทความนี้ ขอบอกไว้ล่วงหน้าเลยว่าเป็นการเดินทางที่พิลึกพิลั่นไม่ไปไหน ฉันไม่เคยเห็นศัพท์แสงที่ไม่สามารถเข้าใจได้มากนักที่อธิบายได้น้อยมาก ฉันไม่เคยเห็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมากขนาดนี้มาก่อนเมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ฉันไม่เคยเห็นคนจำนวนมากพยายามอย่างหนักเพื่อค้นหาปัญหาที่ตรงกับวิธีแก้ปัญหาของพวกเขา"ชื่อเรื่องรอง

เมืองเล็กๆ ในประเทศเนเธอร์แลนด์

"ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง"ในเมือง Zuidhorn เมืองเล็กๆ ที่มีประชากรน้อยกว่า 8,000 คนทางตะวันออกเฉียงเหนือของเนเธอร์แลนด์ ชาวบ้านไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับบล็อกเชนเลย"สิ่งที่เรารู้คือบล็อกเชนกำลังมาและก่อกวน"

ข้าราชการในเมืองบอกกับนักข่าวชาวดัตช์ทุกสัปดาห์"เราสามารถนั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไร หรือจะเลือกตามกระแสก็ได้"ที่ Zuidhorn พวกเขาตัดสินใจเดินหน้าต่อไป โครงการช่วยเหลือเด็กยากจนของเทศบาลจะ

ถูกวางไว้บนบล็อกเชน". Maarten Veldhuijs นักศึกษาและผู้ที่ชื่นชอบบล็อคเชน ได้รับการบรรจุเป็นนักศึกษาฝึกงานในเขตเทศบาล"งานแรกของเขาคือการอธิบายว่าบล็อกเชนคืออะไร พอถามก็บอกว่าใช่"ระบบที่ไม่หยุดยั้ง",มัน"เป็นพลังแห่งธรรมชาติ", หรือว่า .. แทน"อัลกอริทึมฉันทามติแบบกระจายอำนาจ"。

. มันยากที่จะอธิบาย ในที่สุดเขาก็ยอมรับ

ฉันพูดกับ Zuidhorn: 'ฉันจะสร้างแอพให้คุณแล้วคุณจะเข้าใจ'

ดังนั้นเขาจึง"แพ็คเกจช่วยเหลือเด็กให้สิทธิแก่ครอบครัวที่ยากจนในการขี่จักรยาน สิทธิ์ในการเข้าใช้โรงละคร โรงภาพยนตร์ และอื่นๆ ในอดีต ฝันร้ายของระบบราชการ ใบเสร็จรับเงินและงานเอกสาร แต่ต้องขอบคุณแอป Velthuijs ทุกอย่างง่ายมาก: คุณสแกนรหัสของคุณในร้านค้า คุณได้รับจักรยานของคุณ และเจ้าของร้านก็ได้รับเงินของพวกเขา"ทันใดนั้นเมืองก็ประกาศก

หนึ่งในผู้บุกเบิกเทคโนโลยีบล็อคเชนระดับนานาชาติ". ได้รับความสนใจจากสื่อระดับชาติและได้รับรางวัล: พวกเขาได้รับรางวัล Pioneer Award for Municipal Work และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล IT Project Award และ Civil Service Award"ผู้บริหารท้องถิ่นมีความกระตือรือร้นมากขึ้นเรื่อยๆ Veltuijs และเขา"ทีมคือผู้สร้างโลกใบใหม่นี้ แต่คำนี้ไม่แสดงความเคารพเพียงพอ ใน Zuidhorn บางคนมักจะเรียกพวกเขาว่า"。

ตัวแทนแห่งการเปลี่ยนแปลง

ชื่อเรื่องรอง

บล็อกเชนทำงานอย่างไร?

ตัวแทนแห่งการเปลี่ยนแปลง ตัวแทนแห่งการปฏิวัติ ไม่มีอะไรแน่นอน แต่บล็อกเชนคืออะไร?

โดยพื้นฐานแล้ว blockchain เป็นสเปรดชีตที่ได้รับการยกย่อง (คิดว่า Excel เป็นเพียงการควบคุมฐานข้อมูล) วิธีใหม่ในการจัดเก็บข้อมูล ในฐานข้อมูลแบบดั้งเดิม มักจะมีผู้รับผิดชอบหนึ่งคนที่ตัดสินใจว่าใครสามารถเข้าถึงและป้อนข้อมูล และใครสามารถแก้ไขและลบข้อมูลได้ ใน blockchain มันแตกต่างกัน ไม่มีใครรับผิดชอบ และคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือลบอะไรได้ ดูและป้อนข้อมูลเท่านั้น

แอปพลิเคชั่นแรกที่มีชื่อเสียงที่สุดและเป็นแอปพลิเคชั่นเดียวของเทคโนโลยีบล็อกเชนคือ Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลที่ให้คุณย้ายเงินจาก A ไป B โดยไม่ต้องมีธนาคารเข้ามาเกี่ยวข้อง

มันทำงานอย่างไร? ลองนึกภาพว่าต้องโอนเงินจาก Jesse ไปยัง James ธนาคารรู้ว่าต้องทำอย่างไร และฉันขอให้ธนาคารโอนเงินให้เจมส์ ธนาคารจะทำการตรวจสอบที่จำเป็นว่ามีเงินเพียงพอในบัญชีหรือไม่? มีบัญชีอยู่หรือไม่? จากนั้นป้อนฐานข้อมูลของคุณเอง: ส่งเงินให้ James จาก Jesse

ในการเพิ่มบล็อกธุรกรรมเหล่านี้ลงในบัญชีแยกประเภทสาธารณะ นักขุดต้องถอดรหัสปริศนาที่ซับซ้อน (ผลก็คือ พวกเขาต้องเดาตัวเลขจำนวนมากจากรายการตัวเลขที่ยาวมากๆ) ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการไขปริศนา หากไขได้เร็วกว่านี้ อาจเป็นเพราะผู้คนใช้ฮาร์ดแวร์มากขึ้นในการไขปริศนา มันก็จะยากขึ้นโดยอัตโนมัติ

เมื่อแก้ไขได้แล้ว นักขุดจะเพิ่มธุรกรรมลงในบัญชีแยกประเภท blockchain เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งเป็นรายการที่พวกเขาเก็บไว้ในเครื่อง พวกเขาประกาศในแชท: เราแก้ไขแล้ว ดูสิ ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ว่าการแก้ปัญหานั้นถูกต้องและทุกคนจะอัปเดตบัญชีแยกประเภทบล็อกเชนของตนเอง Voila! ข้อตกลงเสร็จสิ้น นักขุดได้รับบิตคอยน์เป็นรางวัลสำหรับการทำงานของพวกเขา

ชื่อเรื่องรอง

อะไรคือปัญหา?

ทำไมต้องตั้งปริศนาที่ซับซ้อน? ถ้าทุกคนประพฤติดี ก็ไม่ต้องมี แต่ลองนึกดูว่ามีคนต้องการใช้เงินก้อนหนึ่งสองครั้ง ฉันบอกเจมส์และจอห์น: ฉันให้บิตคอยน์นี้แก่คุณ ต้องมีคนไปตรวจดูหน่อยว่าโอเคไหม และนักขุดทำในสิ่งที่ธนาคารมักจะทำ: พวกเขาตัดสินใจว่าการทำธุรกรรมใดสามารถทำได้

แน่นอน นักขุดสามารถพยายามโกงระบบโดยเล่นกับฉัน แต่ถ้าฉันใช้เงินเท่ากันสองครั้ง คนอื่นจะเห็นได้โดยตรง และพวกเขาสามารถปฏิเสธที่จะอัปเดตบล็อกเชนได้ ดังนั้น นักขุดที่ประสงค์ร้ายจะไม่ได้อะไรเลยหากเขาพยายามไขปริศนา เนื่องจากการเดาตัวเลขนั้นยากมาก การจ่ายตามกฎจึงคุ้มค่า

สิ่งนี้ไม่มีประสิทธิภาพมาก และหากคุณไว้วางใจให้คนอื่นจัดการข้อมูลของคุณ (เช่น ธนาคาร) ก็ไม่ซับซ้อน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ Satoshi Nakamoto ทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประดิษฐ์ Bitcoin เรียกตัวเองว่า เขาไม่คิดว่าธนาคารเป็นความคิดที่ดี พวกเขาสามารถทำให้เงินหายไปจากบัญชีของคุณได้ ดังนั้นเขาจึงคิดค้น Bitcoin

และ Bitcoin นั้นเป็นไปได้ มีอยู่จริง และตามสถิติล่าสุด ปัจจุบันมีเกือบ 1,855 สกุลเงินที่คล้ายกับ Bitcoin

อย่างไรก็ตาม Bitcoin ไม่ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ เป็นเรื่องจริงที่มีร้านค้าเพียงไม่กี่แห่งที่ยอมรับสกุลเงินดิจิทัลนี้ ความเร็วในการทำธุรกรรมช้ามาก (บางครั้งการทำธุรกรรมใช้เวลา 9 นาที บางครั้งใช้เวลา 9 วัน!) ยุ่งยากมาก (ลองด้วยตัวเอง สะดวกกว่าสำหรับผู้ใช้ในการใช้กรรไกรตัดบรรจุภัณฑ์พลาสติกแข็ง) และไม่เสถียรมาก (มัน ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 17,000 ยูโร ลดลงเหลือ 3,000 ยูโร แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ยูโรในปัจจุบัน)

ไม่เพียงเท่านั้น ยูโทเปียที่กระจายอำนาจอย่างนากาโมโตะที่ฝันถึง นั่นคือการหลีกเลี่ยงบุคคลที่สามที่ไว้ใจได้นั้นยังไปไม่ถึง น่าแปลกที่ตอนนี้มีเหมืองขุด 3 สระ ซึ่งเป็นห้องสร้างบริษัทที่เต็มไปด้วยเซิร์ฟเวอร์ในอลาสก้าและที่อื่น ๆ ที่อยู่ไกลออกไปเหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล พวกเขารับผิดชอบมากกว่าครึ่งหนึ่งของ bitcoins ใหม่ทั้งหมด (และยังรับผิดชอบในการตรวจสอบคำขอชำระเงินด้วย)

สิ่งนี้นำเราไปสู่บล็อกเชน เนื่องจากเทคโนโลยีที่ทำลายไม่ได้สามารถนำมาซึ่งความมั่งคั่งอย่างฉับพลันได้ จึงเป็นสูตรโฆษณาที่พยายามและทดสอบแล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้จัดการ และที่ปรึกษาอ่านในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับสกุลเงินลึกลับที่สามารถเปลี่ยนผู้คนให้เป็นเศรษฐีได้ เราต้องเป็นส่วนหนึ่งของมัน พวกเขาโต้แย้ง แต่คุณไม่สามารถทำอะไรได้มากมายกับ bitcoin แต่ในทางกลับกัน blockchain: เป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง bitcoin และนั่นคือสิ่งที่ทำให้มันเจ๋ง

Blockchain สรุปกระแส Bitcoin: เราไม่ได้แค่กำจัดธนาคาร แต่ยังรวมถึงการลงทะเบียนที่ดิน เครื่องลงคะแนน บริษัทประกัน Facebook, Uber, Amazon, ฐานราก, อุตสาหกรรมสื่อลามก, รัฐบาลและธุรกิจโดยทั่วไป พวกมันซ้ำซ้อนด้วยบล็อกเชน WIRED แสดงรายการ 187 สิ่งที่บล็อคเชนสามารถแก้ไขได้

ชื่อเรื่องรอง

อุตสาหกรรมมูลค่า 600 ล้านยูโร

ในขณะเดียวกัน Bloomberg ประมาณการขนาดของอุตสาหกรรมบล็อกเชนทั่วโลกไว้ที่ประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ (มากกว่า 600 ล้านยูโร) บริษัทขนาดใหญ่ เช่น IBM, Microsoft และ Accenture มีแผนกทั้งหมดที่ทุ่มเทให้กับเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการนี้ ในเนเธอร์แลนด์ มีเงินอุดหนุนมากมายสำหรับนวัตกรรมบล็อกเชน"ปัญหาเดียวคือ มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างคำสัญญากับความเป็นจริง ดูเหมือนว่า blockchain จะฟังดูดีที่สุดในสไลด์ PowerPoint สินค้าคงคลังของ Bloomberg แสดงให้เห็นว่าโครงการบล็อกเชนส่วนใหญ่ไม่ผ่านงานแถลงข่าว Honduran Land Registry ควรใช้ blockchain แผนนั้นถูกเลื่อนออกไป Nasdaq ตั้งใจที่จะทำบางอย่างกับ blockchain ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้น แล้วธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ล่ะ? เลขที่ จากโครงการบล็อกเชนมากกว่า 86,000 โครงการที่เปิดตัว 92 เปอร์เซ็นต์ถูกยกเลิกภายในสิ้นปี 2560 ตามรายงานของบริษัทที่ปรึกษา Deloitte"

ทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจหยุด? Mark van Cuijk นักพัฒนาผู้รู้แจ้งและอดีตนักพัฒนา blockchain อธิบาย

คุณยังสามารถใช้รถยกเพื่อวางเบียร์ 6 แพ็คบนเคาน์เตอร์ครัวได้ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้มีประสิทธิภาพขนาดนั้น"ฉันเขียนรายการคำถามสองสามข้อ ประการแรก: เทคโนโลยีนี้ขัดแย้งกับกฎหมายความเป็นส่วนตัวของยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิที่จะถูกลืม เมื่อบางสิ่งอยู่ใน blockchain จะไม่สามารถลบได้ ตัวอย่างเช่น ลิงก์หลายร้อยลิงก์ไปยังสื่อการล่วงละเมิดเด็กและภาพลามกอนาจารถูกวางบนบล็อคเชน Bitcoin โดยผู้ใช้ที่ประสงค์ร้าย ทำให้ไม่สามารถลบสิ่งเหล่านี้ได้"นอกจากนี้ ใน blockchain คุณไม่เปิดเผยตัวตน แต่

หลอกไม่ระบุชื่อ

ตัวอย่างเช่น อีเมลของฮิลลารี คลินตันถูกแฮ็กเนื่องจากข้อมูลประจำตัวอาจเชื่อมโยงกับธุรกรรมบิตคอยน์ นักวิจัยบางคนที่มหาวิทยาลัยกาตาร์สามารถระบุผู้ใช้ bitcoin หลายหมื่นคนผ่านเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กได้อย่างง่ายดาย นักวิจัยคนอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นว่าสามารถระบุตัวตนของผู้คนได้มากขึ้นโดยใช้เครื่องมือติดตามในเว็บไซต์ช้อปปิ้ง

ไม่มีใครรับผิดชอบและไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ซึ่งหมายความว่าข้อผิดพลาดไม่สามารถแก้ไขได้ ธนาคารสามารถยกเลิกคำขอชำระเงินได้ สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้กับ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ดังนั้นสิ่งใดที่ถูกขโมยมักจะถูกขโมยเสมอ แฮ็กเกอร์ยังคงกำหนดเป้าหมายการแลกเปลี่ยน bitcoin และผู้ใช้ เช่นเดียวกับเครื่องมือการลงทุนที่เปิดตัวโดยนักต้มตุ๋น ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นแผนพีระมิด คาดว่าเกือบ 15% ของ bitcoins ทั้งหมดถูกขโมย และมันเกิดน้อยกว่า 10 ปี

ชื่อเรื่องรอง

Bitcoin และ Ethereum ใช้พลังงานมากพอ ๆ กับทั้งประเทศในออสเตรีย

นอกจากนี้ยังมีปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาสิ่งแวดล้อม? เราไม่ได้พูดถึงสกุลเงินดิจิทัลใช่ไหม ใช่ มันเป็นคนแปลกหน้าด้วยซ้ำ การไขปริศนาที่ซับซ้อนทั้งหมดของกระบวนการขุดต้องใช้พลังงานจำนวนมาก บล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกสองแห่ง ได้แก่ Bitcoin และ Ethereum ใช้พลังงานมากเท่ากับกระแสไฟฟ้าในออสเตรียทั้งหมด ใช้เวลาประมาณ 0.002 kWh ในการชำระเงินด้วย Visa การชำระเงินแบบเดียวกันด้วย Bitcoin ต้องใช้ 906 kWh ซึ่งมากกว่า 500,000 เท่าของ Visa เพียงพอที่จะจ่ายไฟฟ้าให้ครอบครัวที่มีสองคนเป็นเวลาประมาณสามเดือน

และปัญหาสิ่งแวดล้อมจะเลวร้ายลงเท่านั้น เมื่อนักขุดใช้ความพยายามมากขึ้นในการแก้ปัญหาที่ยาก (เช่น การสร้างถ้ำเซิร์ฟเวอร์ที่มืดมากขึ้นในสถานที่ต่างๆ เช่น อลาสก้า) การขุดจะยากขึ้นโดยอัตโนมัติและต้องใช้พลังการประมวลผลมากขึ้น เป็นการแข่งขันทางอาวุธที่ไร้จุดหมายและไม่มีที่สิ้นสุดในการใช้พลังงานมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมในปริมาณที่เท่ากัน

และเพื่ออะไร? นี่เป็นคำถามที่สำคัญที่สุด: บล็อกเชนสามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ด้วย Bitcoin ธนาคารไม่สามารถถอนเงินจากบัญชีของคุณได้ตามต้องการ แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือ? ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าธนาคารจะถอนเงินออกจากบัญชีของคนอื่นตามใจ หากธนาคารทำสิ่งนี้ พวกเขาจะถูกลากขึ้นศาลและสูญเสียใบอนุญาตในเวลาไม่นาน ในทางเทคนิคแล้ว เป็นไปได้ ทางกฎหมายคือโทษประหารชีวิต

แน่นอน คนโกหกมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และผู้คนก็โกหกและคดโกง แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือการหลอกลวงโดยผู้ให้บริการข้อมูล (เช่น: มีคนแอบลงทะเบียนเนื้อม้าก้อนใหญ่เป็นเนื้อวัว) ไม่ใช่การหลอกลวงโดยผู้ดูแลข้อมูล (เช่น: ธนาคารทำเงินหาย)

บางคนแนะนำให้วางการลงทะเบียนที่ดินในบล็อกเชน สิ่งนี้จะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ในประเทศที่มีหน่วยงานของรัฐที่ทุจริต ยกตัวอย่างเช่น ประเทศกรีซ ซึ่งอาคาร 1 ใน 5 แห่งไม่ได้จดทะเบียน เหตุใดอาคารเหล่านี้จึงไม่ขึ้นทะเบียน เนื่องจากชาวกรีกเพิ่งเริ่มสร้างบ้านและทันใดนั้นก็มีอาคารผิดกฎหมายที่ไม่อยู่ในทะเบียนที่ดิน"แต่บล็อกเชนไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ Blockchain เป็นฐานข้อมูล ไม่ใช่ระบบกำกับดูแลตนเองที่จะตรวจสอบว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้องหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงระบบที่หยุดโครงการก่อสร้างที่ผิดกฎหมาย กฎสำหรับบล็อกเชนนั้นเหมือนกันกับฐานข้อมูลใดๆ: ถ้ามีคนใส่ข้อมูลขยะเข้าไป ขยะก็จะออกมา"

บันทึก blockchain ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่สามารถแปลงได้ และปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส ซึ่งพิสูจน์ว่าฉันมีอลูมิเนียม 10,000 ปอนด์ในโกดัง และถ้าฉันลักลอบนำอลูมิเนียมออกจากโกดังทางประตูหลัง บันทึก blockchain จะไม่มีความหมายอะไรกับธนาคารที่ใช้

ข้อมูลควรสะท้อนความเป็นจริง แต่บางครั้งการเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงและข้อมูลยังคงเหมือนเดิม นั่นเป็นเหตุผลที่เรามีทนายความ หัวหน้างาน ทนายความ ที่จริงแล้วตำแหน่งที่ "น่าเบื่อ" เหล่านี้ที่บล็อกเชนคิดว่าสามารถหลีกเลี่ยงได้

ชื่อเรื่องรอง

Blockchain ไม่มีพื้นหลัง

แล้วเมือง Zuidhorn ผู้บุกเบิกล่ะ บล็อกเชนไม่ประสบความสำเร็จที่นั่นหรือ

จริงๆแล้วไม่ใช่ ฉันได้ดูแอป Kiddie Kit บน GitHub (ไซต์ที่โปรแกรมเมอร์เผยแพร่ซอฟต์แวร์) และแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับบล็อกเชนเลย ดังนั้นจึงมีคนขุดคนเดียวที่ทำงานข้างนอก บนเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต กำลังทำการวิจัยภายใน แต่ครอบครัวและเจ้าของร้านที่อาศัยอยู่ในความยากจนกำลังใช้แอปพลิเคชันที่ง่ายมาก โดยใช้รหัสที่ง่ายมาก ทำงานบนฐานข้อมูลที่ง่ายมาก

Velthuijs："ฉันโทรหามาร์เท่น เวลทุยส์"

เฮ้ ฉันสังเกตเห็นว่าแอปพลิเคชันของคุณไม่ต้องการบล็อกเชนเลยจริงๆ

ถูกตัอง."แต่ก็ไม่แปลกอะไรที่คุณได้รับรางวัลเหล่านี้ทั้ง ๆ ที่คุณไม่ได้ใช้บล็อคเชนจริง ๆ ?"

เขา:

เป็นไปได้อย่างไร?"ฉันไม่รู้."ฉันไม่รู้."

ไม่รู้สิ เราตั้งใจจะบอกคนอื่น แต่ดูเหมือนว่าเราไม่ได้ทำตาม ตอนนี้คุณโทรหาฉันอีกครั้งและพูดแบบนี้...

ชื่อเรื่องรอง

แล้ว blockchain อยู่ที่ไหน?

Zuidhorn ก็ไม่มีข้อยกเว้น หากคุณดูอย่างใกล้ชิด มีการทดลองบล็อกเชนทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนเพียงเล็กน้อย

Take My Care Log อีกหนึ่งการทดลองที่ได้รับรางวัล คราวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการดูแลมารดา ทารกแรกเกิดชาวดัตช์ทุกคนได้รับการดูแลมารดาจำนวนหนึ่ง เช่นเดียวกับชุดช่วยเหลือเด็กของ Zuidhorn มันเป็นฝันร้ายของข้าราชการ แต่ตอนนี้คุณมีแอปในสมาร์ทโฟนที่ติดตามการดูแลที่คุณได้รับและดูว่าคุณมีเหลืออยู่เท่าไร

ถ้าคุณถามฉัน พวกเขากำลังสร้างฐานข้อมูลที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ไม่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง เมื่อคุณแบ่งศัพท์แสงทั้งหมด มันจะกลายเป็นคำอธิบายที่น่าเบื่อของสคีมาฐานข้อมูล พวกเขาเขียนเกี่ยวกับบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (นั่นคือฐานข้อมูลที่ใช้ร่วมกัน) สัญญาอัจฉริยะ (นั่นคืออัลกอริทึม) และหลักฐานการมีอำนาจ (นั่นคือสิทธิ์ในการยับยั้งสิ่งที่ป้อนในฐานข้อมูล)

Merkle Trees (วิธีการยกเลิกการเชื่อมโยงข้อมูลจากการตรวจสอบข้อมูลนั้น - เรื่องยาว) เป็นองค์ประกอบบล็อกเชนเพียงรายการเดียวที่คัดเลือกมา และนั่นเป็นเทคโนโลยีที่ดีอย่างสมบูรณ์ ไม่มีอะไรผิดปกติ ปัญหาเดียวคือ Merkle tree มีมาตั้งแต่ปี 1979 และถูกใช้มาหลายปีแล้ว เช่น ใน Git ซึ่งเป็นระบบควบคุมเวอร์ชัน (ใช้โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์เกือบทุกคนในโลก) ซึ่งไม่ซ้ำกับบล็อกเชน

ชื่อเรื่องรอง

มีตลาดเวทมนตร์และเป็นตลาดใหญ่

"ฉันได้พูดไปแล้ว: เรื่องนี้เป็นกระบวนการที่แปลกไม่มีที่ไป"ในขณะที่เขียนบทความนี้ ฉันตัดสินใจที่จะสนทนากับหนึ่งในนักพัฒนาของเรา ในความเป็นจริงมีนักพัฒนาที่มีชีวิตจริงอยู่ในห้องข่าวของเรา นักพัฒนา Tim Strijdhorst ไม่รู้เรื่องบล็อกเชนมากนัก แต่เขาบอกฉันอย่างอื่น

งานของฉันคือทำงานกับโค้ด ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าฉันเป็นผู้วิเศษ

เขาพูดอย่างภาคภูมิใจ สิ่งนี้ทำให้เขาประหลาดใจอยู่เสมอ - นักมายากล? เขาใช้เวลาครึ่งหนึ่งไปกับการตะโกนใส่หน้าจอด้วยความหงุดหงิด แก้ไขสคริปต์ PHP ที่มีปัญหามานานหลายปีเหล่านั้น

ทิมหมายถึงว่า ICT ก็เหมือนส่วนอื่นๆ ของโลก เป็นระเบียบแบบเก่าๆ

และนี่เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้สำหรับบุคคลภายนอก คนธรรมดา และผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิค ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารคิดว่าไม่ว่าปัญหาจะใหญ่หรือพื้นฐานเพียงใด ด้วยเทคโนโลยีที่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับงานนำเสนอ PowerPoint ที่สวยงาม ปัญหาจะหายไปในทันที มันจะทำงานอย่างไร? ใครสน? อย่าพยายามที่จะเข้าใจ เพียงแค่ได้รับประโยชน์จากมัน!"มันเกี่ยวกับตลาดเวทมนตร์ และเป็นตลาดที่ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับบล็อกเชน ข้อมูลขนาดใหญ่ คลาวด์คอมพิวติ้ง ปัญญาประดิษฐ์ หรือคำยอดนิยมอื่นๆ"อย่างไรก็ตาม บางครั้งการคิดแบบเวทมนต์เช่นนี้อาจจำเป็น ทำการทดลองการดูแลมารดา My Care Log ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ Hugo de Kaat จากบริษัทประกันภัย VGZ ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการศึกษากล่าวว่า:

ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่สุดในด้านการดูแลมารดาได้รับการสนับสนุนจากการทดลอง"พวกเขากำลังจะสร้างแอปที่คล้ายกัน แต่ไม่มีลูกเล่นทั้งหมด มีแต่เทคโนโลยีดั้งเดิม"และ Maarten Veltuijs เขาสามารถสร้างแอพชุดช่วยเหลือเด็กที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ใช้บล็อกเชนได้หรือไม่? เป็นไปไม่ได้ เขายอมรับ แต่เขาไม่ยึดติดกับเทคโนโลยี"คุณเห็นไหมว่า สิ่งต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นไปด้วยดีจนกว่าเราจะประดิษฐ์เครื่องบินขึ้นมา"

เวลทุยส์ กล่าว

ลองดูใน YouTube มีชายคนหนึ่งที่เพิ่งกระโดดลงมาจากหอไอเฟลด้วยร่มชูชีพที่ทำเอง ใช่ แน่นอน เขาตกลงมาจนเสียชีวิต แต่เราต้องการคนเหล่านี้ด้วย"ดังนั้น ถ้า Maarten สามารถใช้ blockchain เพื่อให้มันใช้งานได้ เยี่ยมมาก! คงจะดีถ้าเขาไม่นำมันมาใช้กับบล็อกเชน คงจะดีถ้าเขาไม่จัดการมันด้วยบล็อกเชน อย่างน้อยเขาก็จะได้เรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ใช้ได้ผลและสิ่งที่ใช้ไม่ได้ และเมืองนี้มีแอปที่ดีที่จะสาธิตให้ใช้งาน"บางทีนี่อาจเป็นคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ blockchain: เป็นแคมเปญประชาสัมพันธ์แม้ว่าจะมีราคาแพงก็ตาม"บล็อกเชน"และ"นวัตกรรม"และ

นวัตกรรม

ใช่.

มาร์เท่นสามารถพัฒนาแอพ Child Rescue Kit ของเขาได้ ผู้ให้บริการดูแลมารดาเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง ธุรกิจจำนวนมากและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตระหนักว่าการจัดการข้อมูลของพวกเขาไม่เพียงพอ"ใช่ มันต้องใช้คำสัญญาบ้าๆ ที่ไม่ได้ผล แต่ผลที่ได้คือตอนนี้ผู้จัดการสนใจหัวข้อน่าเบื่อที่ช่วยให้โลกดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่มีความคืบหน้ามากนัก มีแต่ความคืบหน้า"。

Matt Levine เขียนว่าสิ่งที่ฉลาดที่สุดเกี่ยวกับ blockchain คือการยอมให้โลกถูกบังคับ