ผู้เขียนต้นฉบับ: supreet.eth

การรวบรวมต้นฉบับ: H.Forest Ventures, Dinzz

เหตุผลที่แนะนำ:

เหตุผลที่แนะนำ:เราทุกคนรู้ว่า OpenSea เป็นตลาดเดียว แต่ OpenSea กลายเป็นตลาด NFT ที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้อย่างไร ในบทความ ผู้เขียนได้อธิบายถึงวิธีการที่ OpenSea ตัดสินใจเลือกอย่างถูกต้องทีละขั้นตอนในฤดูหนาวการเข้ารหัสที่ยาวนานถึง 18 ปี: พวกเขาทำนายเส้นทางที่เป็นไปได้ สร้างความสัมพันธ์ด้านอุปสงค์และอุปทานในแบบของพวกเขาเอง จากทิศทางของการเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้สูงสุด การขัดผลิตภัณฑ์ ... OpenSea กลายเป็นยูนิคอร์นในตลาดซื้อขาย NFT ผ่านสิ่งเหล่านี้ แล้วหลังจากนั้น OpenSea จะไปทางไหน? ให้บทความบอกคุณ

ย้อนกลับไปช่วงฤดูหนาวปี 2018 เมื่อตลาดการเข้ารหัสใกล้จะล่มสลาย แม้แต่ชิปสีน้ำเงินอย่าง BTC และ ETH ก็ลดลงถึง 90% จากระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ และโครงการเหล่านั้นที่เคยมีวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ก็ปิดตัวลงทีละโครงการ ดังนั้นในงานเลี้ยงอาหารค่ำวันขอบคุณพระเจ้า ลุงของคุณอาจถามประชดประชันว่า "แล้ว... การลงทุน Bitcoin ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง"

ชื่อระดับแรก

ประการแรก NFT คืออะไร

NFTs (Non-Fungible Token) เป็นวิธีการจัดเก็บความเป็นเจ้าของสินทรัพย์บนบล็อกเชน อาจเป็นทรัพย์สินดิจิทัล เช่น รูปภาพ เพลง หรือแม้แต่ทรัพย์สินในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น โฉนดที่ดิน ประกาศนียบัตร เป็นต้น เนื่องจากบล็อคเชนมีการกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์และทนต่อการเซ็นเซอร์ (อย่างน้อย Ethereum ก็เป็นเช่นนั้น) คุณไม่จำเป็นต้องมีบุคคลที่สามเพื่อรักษาบันทึกความเป็นเจ้าของนี้

ชื่อระดับแรก

OpenSea เป็นที่นิยมจริงหรือ?

ลองดูที่ข้อมูล ตารางด้านล่างเปรียบเทียบตลาด NFT ต่างๆ ตามจำนวนผู้ใช้ ปริมาณธุรกรรม และปริมาณธุรกรรม ETH ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา สถิติเหล่านี้มาจาก DappRadar ซึ่งติดตามเมตริกต่างๆ สำหรับแอปพลิเคชัน Ethereum โดยการสืบค้นข้อมูล Ethereum on-chain

ชื่อระดับแรก

พวกเขาทำอะไรถูกต้อง?

ชื่อเรื่องรอง

สร้างความสัมพันธ์ของอุปสงค์และอุปทานได้อย่างรวดเร็ว

ดังที่ Lenny Rachitsky (อดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Airbnb) กล่าวถึงในจดหมายข่าวของเขา หนึ่งในประเด็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของการเปิดตลาดสามารถอธิบายได้ว่าเป็น "ปัญหาของไก่กับไข่" คุณจะโน้มน้าวให้ซัพพลายเออร์จัดอันดับสินค้าของตนได้อย่างไรเมื่อไม่มีผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม และถ้าไม่มี คุณจะได้รับความสนใจจากผู้ซื้อได้อย่างไร

ตลาดแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จโดยการสร้างช่องทางการจัดหาก่อน เช่นเดียวกับ OpenSea ดังที่ The Generalist รายงาน พวกเขาพยายามอย่างมากในการสร้างอุปทานเริ่มต้น ซึ่ง Richard Chen (หุ้นส่วนที่ 1confirmation บริษัทการลงทุน crypto) สรุปได้อย่างสมบูรณ์แบบในคำพูดด้านล่าง:

"Devin และ Alex (ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenSea) ทำได้ดีมากในการค้นพบโปรเจ็กต์ NFT ใหม่ใน Discords และเอาชนะ Rare Bits (คู่แข่งที่แข็งแกร่งของ OpenSea ในขณะนั้น) และประสบความสำเร็จในการทำให้โปรเจ็กต์เหล่านี้อยู่ในรายการและซื้อขายบน OpenSea แทนที่จะเป็น Rare Bits เมื่อเราลงทุนในเดือนเมษายน 2018 OpenSea ซื้อขายประมาณ 4 เท่าของปริมาณของ Rare Bits" --Richard Chen

ความพยายามเหล่านี้นำไปสู่การทำงานร่วมกันในช่วงต้นของ OpenSea กับโครงการ/ศิลปินต่างๆ รวมถึงการสนับสนุน Axies (เป็นเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Ethereum) โดยใช้โทเค็น MANA ดั้งเดิมเพื่อซื้อ Decentraland (เกมเสมือนที่ใช้ Ethereum คล้ายกับ Minecraft) เกม) ร่วมมือกับเมเจอร์ลีกเบสบอลเพื่อจำหน่ายของสะสมดิจิทัลของ MLB ร่วมมือกับทางการของ Deadpool เพื่อจำหน่ายของสะสมดิจิทัล ร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลเยอรมันบาเยิร์นมิวนิกในรายชื่อการ์ดผู้เล่น NFT และสนับสนุนธุรกรรมชื่อโดเมน ENS รายการที่ละเอียดถี่ถ้วนนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมในการสร้างพันธมิตรด้านการจัดหาที่มั่นคงกับโครงการต่างๆ ให้ได้มากที่สุด และวิสัยทัศน์ที่จะตอบสนอง NFT ในหลากหลายประเภท รวมถึงเกม ศิลปะ กีฬา ความบันเทิง โดเมน และอื่นๆ

การก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มรูปแบบของ OpenSea ได้รับแรงหนุนจากคุณลักษณะที่มุ่งเน้นผู้ใช้ของแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้ขายสามารถเริ่มต้นใช้งาน OpenSea ได้ง่าย รายชื่อ NFT นั้นไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีการอนุมัติหรือขั้นตอนการอนุมัติที่ซับซ้อน นอกจากนี้ OpenSea ได้สร้างวิธีการเปลี่ยนค่าใช้จ่ายในการสร้าง NFT ใหม่บน Ethereum จากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ คุณลักษณะทั้งสองนี้ได้ลดอุปสรรคในการเข้าสู่ศิลปิน/โครงการใหม่ลงอย่างมาก และเพิ่มคลังของ NFTs บนแพลตฟอร์มอย่างมาก

ชื่อเรื่องรอง

เพิ่มประสบการณ์การใช้งานสูงสุด

ดังที่ Sarah Tavel กล่าวถึงในบล็อกโพสต์ของเธอ ตลาดไม่ควรมุ่งเน้นที่การเพิ่มอุปทานเท่านั้น แต่ยังต้องนำคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ให้สูงสุดด้วย เช่นเดียวกับที่ Uber ทำกับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสด้วยบัตรเครดิต Airbnb ช่วยให้พวกเขาหาลูกค้าได้ง่ายขึ้นด้วยการสร้างโปรแกรมโฮสต์ระดับพรีเมียมที่ให้รางวัลแก่เจ้าของที่พักที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดด้วยป้ายแสดงพิเศษ OpenSea เก่งที่นี่เช่นกัน

คำอธิบายภาพ

ตัวกรองที่แตกต่างกันสำหรับคอลเลกชันต่างๆ

ต่อไป พวกเขาใช้ขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่รบกวนผู้ที่ชื่นชอบ NFT และผู้ใช้ Ethereum โดยทั่วไป นั่นคือค่าธรรมเนียมน้ำมันที่สูงอย่างห้ามปราม ค่าน้ำมันเป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บสำหรับแต่ละธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum โดยจ่ายให้กับบุคคลที่ดูแลเครือข่าย ซึ่งก็คือนักขุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความต้องการ Ethereum ที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อและความจุที่ค่อนข้างต่ำของเครือข่ายปัจจุบัน ค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรม NFT อาจอยู่ในช่วงตั้งแต่สิบถึงหลายร้อยดอลลาร์ (ขึ้นอยู่กับความแออัดของเครือข่าย) แม้ว่า OpenSea จะไม่สามารถควบคุมค่าธรรมเนียมก๊าซพื้นฐานของเครือข่าย Ethereum ได้ แต่พวกเขาก็ได้ติดตั้งคุณสมบัติหลายอย่างที่ช่วยลดต้นทุนเหล่านี้ อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง

พวกเขาเปิดให้ประมูลแบบ off-chain เพื่อให้ใช้ค่าน้ำมันเพียงครั้งเดียวระหว่างการขายขั้นสุดท้าย, อนุญาตให้ลดราคาประมูลแบบ off-chain เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงราคาไม่ต้องจ่ายค่าแก๊สในแต่ละครั้ง, แนะนำ "ขี้เกียจ การสร้างเหรียญในคลิกเดียว" เพื่อให้ศิลปินสามารถสร้าง NFT ได้ฟรี และผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบค่าน้ำมัน OpenSea ผสานรวมกับ Polygon ซึ่งเป็นเครือข่ายด้านข้างของ Ethereum และต้นทุนการโต้ตอบต่ำกว่า

ชื่อเรื่องรอง

เลือกสิ่งที่ถูกต้อง

ผลิตภัณฑ์ที่ดีเป็นเพียงหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จ แต่ไม่ใช่องค์ประกอบเดียว ทุกโครงการต้องเผชิญกับทางเลือกมากมายตลอดวงจรชีวิต และตัวเลือกที่พวกเขาเลือกจะเป็นตัวกำหนดว่าพวกเขาจะโต้คลื่นหรือพลิกคว่ำและจมลง OpenSea ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้องมากมายเพื่อไปสู่จุดสูงสุด

ประการแรกคือพวกเขามีศรัทธาในภารกิจของตน จากข้อมูลของ The Generalist ความเชื่อที่มั่นคงของพวกเขาเป็นสิ่งที่เรียกว่า ERC-721 นี่เป็นมาตรฐานที่สร้างขึ้นโดยนักพัฒนาหลักของ Ethereum เพื่อควบคุมการสร้างและถ่ายโอน NFT บน Ethereum การสร้างมาตรฐานนี้หมายความว่าพื้นที่นี้มีความสำคัญเพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของนักพัฒนา Ethereum และโครงการ NFT ในอนาคตทั้งหมดจะปฏิบัติตามมาตรฐานนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างตลาดบนมาตรฐาน ERC-721 ซึ่งสามารถรองรับ NFT ในอนาคตทั้งหมดได้ ด้วยการทำเช่นนั้น OpenSea มอบประสบการณ์ที่สะดวกยิ่งขึ้นแก่ผู้ซื้อโดยการรวมการจัดหา NFT ก่อนหน้านี้ แต่ละโปรเจ็กต์ต้องสร้างตลาดของตัวเอง ตัวอย่างเช่น CryptoPunks และ Axies มีตลาด NFT ของตัวเอง (และยังคงทำอยู่)

ความเชื่อใน NFT นี้ยังเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาอยู่รอดได้ในช่วงฤดูหนาวปี 2018 ของการเข้ารหัสลับ เมื่อตลาด cryptocurrency ตกต่ำและมีโครงการไม่กี่โครงการที่สามารถอยู่รอดได้ OpenSea มีทีมงานที่มีพนักงานเพียง 7 คน อาศัยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมคงที่เพื่อรักษาการดำเนินงานของบริษัท และฝึกฝนอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรม

ชื่อระดับแรก

อะไรต่อไปสำหรับ OpenSea

คุณจะทำอะไรหลังจากพิชิตโลก? มันขึ้นอยู่กับคุณแล้วที่จะเอาชนะคู่แข่งทุกคนที่กล้าโค่นคุณและครองอำนาจต่อไป สิ่งนี้สามารถทำได้โดยการเป็นที่หนึ่งในสาขาของคุณด้วยระยะขอบที่กว้าง ขยายไปยังฟิลด์หรือแทร็กอื่น หรือทั้งสองอย่าง

OpenSea เป็นกำลังหลักในตลาด NFT อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่แท้จริงและทรงพลังจาก LookRare ผู้มาใหม่สู่ตลาด ตลาด NFT ที่เพิ่งเปิดตัวนี้มีข้อดีมากมายสำหรับพวกเขา: ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า OpenSea มีโทเค็นแบบเนทีฟซึ่งเพิ่มความน่าสนใจอย่างมากให้กับชาวคริปโต และแบ่งปันค่าธรรมเนียมทั้งหมดกับผู้ถือโทเค็น ดังที่เห็นได้จากตารางก่อนหน้านี้ LooksRare แซงหน้าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ทั้งหมด และกำลังเข้าใกล้ปริมาณและมูลค่าของ OpenSea

OpenSea จะเปิดตัวโทเค็นของตัวเองหรือไม่? มันไม่ง่ายอย่างนั้น ในฐานะบริษัทของสหรัฐฯ OpenSea เข้ากันได้ดีกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ และไม่สามารถเสี่ยงที่จะเปิดตัวโทเค็นที่จะดึงความโกรธเกรี้ยวจากหน่วยงานกำกับดูแลมาขัดขวางการดำเนินงานของพวกเขา ดังนั้น เส้นทางข้างหน้าของ OpenSea คือการเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ให้สูงสุด และอาจขยายไปยังเส้นทางอื่นๆ นี่คือตัวเลือกที่เป็นไปได้:

• ขยายมือถือ OpenSea มีแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อยู่แล้ว แต่มีข้อจำกัดมากและไม่อนุญาตให้มีการซื้อขาย NFT แอปพลิเคชันจำเป็นต้องแยกกระบวนการสร้างกระเป๋าเงิน การจัดเก็บวลีช่วยจำ (ซึ่งสามารถทำได้สำหรับผู้ใช้ขั้นสูง) และการประมาณก๊าซที่ซับซ้อน โดยพื้นฐานแล้วจะช่วยให้ผู้เริ่มหัดเข้ารหัสสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างราบรื่น

• สำรวจการกระจายตัวของ NFT ซึ่งเจ้าของดั้งเดิมของ NFT สามารถแบ่งความเป็นเจ้าของออกเป็นโทเค็นขนาดเล็กหลายโทเค็น ซึ่งจากนั้นผู้อื่นสามารถซื้อเพื่อแบ่งปันความเป็นเจ้าของของ NFT เมื่อคนส่วนใหญ่ไม่สามารถซื้อ NFT แบบบลูชิป เช่น BYAC และ CryptoPunks ได้ การเป็นเจ้าของดังกล่าวจะกลายเป็นความต้องการใหม่ เจ้าของดั้งเดิมสามารถได้รับประโยชน์จากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นและค่าธรรมเนียม "ผู้ดูแล" ที่อาจเกิดขึ้นจากการขาย NFT ที่กระจัดกระจาย ชนะ!

• พิจารณาการเป็นพันธมิตรกับโปรโตคอล DeFi (หรือสร้างโปรโตคอลของคุณเอง) เพื่ออนุญาตให้ยืมเงินโดยใช้ NFT เป็นหลักประกัน โดยเริ่มจาก NFT แบบบลูชิป การทำงานร่วมกันแบบข้ามสายนี้สามารถปลดล็อกฐานผู้ใช้ใหม่ทั้งหมดและความต้องการ OpenSea

• เมื่อเร็ว ๆ นี้ Vitalik ได้พูดถึง NFT ที่ไม่สามารถถ่ายโอนได้ซึ่งมีศักยภาพในการใช้งาน เช่น การให้วุฒิการศึกษาระดับวิทยาลัย ตำแหน่งที่ดิน และอื่นๆ แม้ว่าจะมีข้อควรพิจารณามากมายที่ยังไม่ได้แก้ไข (เช่น หากเจ้าของต้องการโอนไปยังกระเป๋าเงินอื่นของตนเองเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย) OpenSea อาจเป็นผู้นำการอภิปรายของชุมชน และอาจถึงขั้นเขียนมาตรฐาน ERC สำหรับกระเป๋าเงินดังกล่าว! พวกเขายังสามารถสำรวจศักยภาพของการสร้างโซลูชัน B2B ซึ่งนำเสนอโซลูชัน NFT ที่ไม่สามารถถ่ายโอนได้ให้กับธุรกิจที่อาจต้องการใช้

หมายเหตุผู้แปล:

หมายเหตุผู้แปล:

บัญชีอย่างเป็นทางการ: H Forest

ตามเรามา:

ทวิตเตอร์ของเรา: @Forest_Ventures

กระจกของเรา:H.Forest

บัญชีอย่างเป็นทางการ: H Forest