หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อความต้นฉบับจากnews.bitcoin,ผู้เขียนJamie Redman。

ผู้แปล | ฉินเสี่ยวเฟิง

บรรณาธิการ | หลู่ เสี่ยวหมิง

หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อความต้นฉบับจาก

,ผู้เขียน

ผู้แปล | ฉินเสี่ยวเฟิง

บรรณาธิการ | หลู่ เสี่ยวหมิง

คนส่วนใหญ่ไม่เป็นที่รู้จัก ประมาณหนึ่งในสี่ของธุรกรรมรายวันบนเครือข่าย BTC ถูกสร้างขึ้นโดยโครงการอื่นที่เรียกว่า Veriblock Veriblock ใช้ระบบที่เรียกว่า PoP (proof-of-proof) นั่นคือโดยการ "พิสูจน์" ว่าข้อมูลที่มาจากห่วงโซ่ BTC นั้นมีความน่าเชื่อถือ จากนั้นจึง "พิสูจน์" ว่า "การพิสูจน์" ก่อนหน้านี้นั้นเชื่อถือได้ โดยพื้นฐานแล้ว Veriblock มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของบล็อกเชนของ altcoin โดยฝังภาพรวมของบัญชีแยกประเภทของ altcoin ลงในบล็อกเชน BTC

Veriblock ใช้ OP_RETURN และวิธีการอื่นๆ เพื่อฝังข้อมูลสถานะของ blockchain ลงใน "ธุรกรรม SP blockchain" OP_RETURN เป็นธุรกรรม Bitcoin ที่ฝังข้อมูลลงใน blockchain สามารถใช้เพื่อพิสูจน์การมีอยู่ของข้อมูลบางอย่าง ณ เวลาใดเวลาหนึ่งและเผยแพร่สินทรัพย์ใหม่ใน Bitcoin blockchain

เมื่อเดือนที่แล้วผู้พัฒนา BTC และ CTO ของ Casa Jameson Lopp สังเกตเห็นว่า Veriblock เข้าควบคุม OP_RETURN ที่ใช้ BTC

Lopp อธิบายว่า: "แหล่งที่มาปัจจุบันของเอาต์พุต OP_RETURN ได้รับการระบุว่าเป็นเครื่องขุด Veriblock 'proof of proof' พวกเขาสร้างประมาณ 20% ของธุรกรรม Bitcoin ทั้งหมด"

(Jameson Lopp สังเกตเห็นข้อตกลง Veriblock เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว)

ตามสถิติที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ วันที่ดีที่สุดในข้อมูล Veriblock สร้างธุรกรรม BTC 30-45% ขณะนี้โครงการยังอยู่ในช่วงทดสอบเครือข่าย (testnet) และเพิ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบ cryptocurrency

นอกจากนี้ยังมีสมาชิกชุมชน BTC บางคนที่เรียกโครงการนี้ว่า "ขยะ" และบ่นว่า Veriblock กำลังส่งสแปมเครือข่าย โดยทั่วไป มีการประเมินเชิงอัตนัยหลายอย่างว่ากรณีการใช้งานธุรกรรมบางอย่างเป็นสแปมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าโดยพื้นฐานแล้วเครือข่ายนั้นไม่มีการอนุญาต ตราบใดที่ผู้ใช้ยินดีจ่ายสำหรับพื้นที่บล็อก มันก็ไม่สำคัญ Veriblock เชื่อว่าบล็อกเชนอื่นๆ จะถูกดึงดูดให้ใช้ระบบ PoP เพราะสามารถใช้ประโยชน์จากความปลอดภัยและชื่อเสียงของ BTC ได้

คำอธิบายภาพ

สถิติ Veriblock testnet

"เนื่องจาก Veriblock อาศัยความปลอดภัยของ BTC โปรเจกต์จึงสามารถจัดหาเครือข่ายความปลอดภัยนี้ให้กับเครือข่ายอื่นได้" เว็บไซต์ Veriblock กล่าว "สิ่งนี้ทำให้สามารถตรวจจับการโจมตีได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และป้องกัน 51% ของการโจมตีแบบถาวรและ

Veriblock ดำเนินการโดย CTO Maxwell Sanchez และ CEO Justin Fisher โดยเฉพาะอย่างยิ่งอดีตนักพัฒนา Bitcoin อย่าง Jeff Garzik ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิค