ผู้เขียนต้นฉบับ: cyclop (@nobrainflip)

รวบรวมโดย Odaily Planet Daily ( @OdailyChina ); แปลโดย Azuma ( @azuma_eth )

หมายเหตุบรรณาธิการ: การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะของ MegaETH (MEGA) จะเปิดอย่างเป็นทางการเวลา 21.00 น. ตามเวลาปักกิ่งคืนนี้ และการอภิปรายกำลังเข้มข้นขึ้น คุณควรเข้าร่วมหรือไม่? ผลตอบแทนที่คาดหวังคือเท่าใด? จะสามารถเลียนแบบความสำเร็จของ Plasma (XPL) ได้หรือไม่?

ด้านล่างนี้คือความคิดเห็นของ Cyclop (@nobrainflip) KOL จากต่างประเทศเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะรอบนี้ ต่างจากความคิดเห็นบางส่วนที่เกิดจากการกลัวพลาด (FOMO) Cyclop เชื่อว่า เมื่อพิจารณาจากอัตราการจองซื้อหุ้นเกินจำนวนในปัจจุบัน ศักยภาพในการเติบโตของมูลค่า และการออกแบบกฎเกณฑ์การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ ผลกระทบต่อความมั่งคั่งจากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะของ MEGA อาจไม่ได้เกินจริงอย่างที่หลายคนคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ไม่มีอิทธิพลเพิ่มเติมหรือประวัติการเข้าร่วมหุ้นมาก่อน

ต่อไปนี้เป็นเนื้อหาต้นฉบับของ cyclop แปลโดย Odaily Planet Daily

หากคุณได้ติดตามการสนทนาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลบนโซเชียลมีเดียในช่วงหลัง คุณคงจะเห็นโพสต์มากมายเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนของ MegaETH (MEGA) อย่างแน่นอน

กระแสฮือฮาทั้งหมดนี้มาจากไหน? ทำไมผู้คนมากมายถึงให้ความสนใจกับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งนี้? คำตอบนั้นง่ายมาก: ช่องทางเดียวที่นักลงทุนรายย่อยสามารถสร้างรายได้ในปัจจุบันคือผ่าน ICO (การเสนอขายโทเคนเริ่มต้น)

โทเค็นมีมกำลังซบเซา มูลค่าตลาดของอัลต์คอยน์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง และวิกฤตการณ์ 11 ตุลาคมยิ่งทำให้สภาพคล่องของผู้บริโภคลดลงไปอีก การถือครองเหรียญแบบสุ่มๆ ในเวลานี้ถือเป็นหายนะ แต่ถ้าคุณเพียงแค่ถือครองเหรียญเสถียร (stablecoin) และมุ่งเน้นไปที่การลงทุนใน IPO ใหม่ คุณอาจเพิ่มพอร์ตโฟลิโอของคุณเป็นสองเท่าหรือสามเท่าภายในเวลาเพียงสองหรือสามเดือน

ความรู้สึกของตลาดเปลี่ยนไปแล้ว เราได้เข้าสู่ช่วงบูมของ ICO ในรอบนี้แล้ว ในบรรดาแพลตฟอร์ม IPO ต่างๆ Echo ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เพราะเหตุใด? เพราะการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกของ Echo อย่าง Plasma (XPL) สร้างผลตอบแทนที่น่าเหลือเชื่อ

ในรอบนั้นของ XPL คุณสามารถรับรายได้อย่างน้อย 1.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากทุกๆ เงินทุนที่สมัครรับทุกๆ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ และระดับรายได้นั้นไม่จำกัด เนื่องจากการประเมินมูลค่าของ XPL เพิ่มขึ้นมากกว่า 30 เท่าหลังจากเปิดตัวเมื่อเปรียบเทียบกับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ (การประเมินมูลค่าการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ FDV หลังจากเปิดตัวครั้งหนึ่งก็เกิน 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในขณะที่ระดับรายได้ที่สมัครรับนั้นสูงกว่า "เพียง" 20 เท่าเท่านั้น

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ทุกคนสามารถเข้าร่วมการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปได้ โดยไม่คำนึงถึงประสบการณ์บนเครือข่าย อิทธิพลทางสังคม หรือความเชื่อมโยงในระบบนิเวศ สิ่งที่ต้องทำคือผ่านการตรวจสอบ KYC ของ Echo และฝากเงิน (แม้ว่าจะเป็นระบบใครมาก่อนได้ก่อน แต่ในระยะที่สองมีเวลา 30 นาทีเต็มสำหรับการดำเนินการ)

คำถามคือ MEGA จะทำซ้ำปาฏิหาริย์ XPL ได้ไหม? คราวนี้ทุกคนจะหาเงินได้หรือเปล่า?

ฉันขอตอบตรงๆ เลยว่า ไม่!

ผลกระทบอันน่าประทับใจในการสร้างความมั่งคั่งของ XPL เกิดจากการที่ Echo และตลาด ICO ทั้งหมดยังไม่เติบโตเต็มที่ในขณะนั้น การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะของ XPL มีมูลค่ารวม 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีผู้จองซื้อเกินกว่าจำนวนที่จองซื้อถึง 20 เท่า ไม่มีปัจจัยถ่วงน้ำหนัก โดยจัดสรรจำนวนเท่าๆ กันตามขนาดของการจองซื้อ

ในการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะของ MEGA ในปัจจุบัน Polymarket คาดการณ์ว่ายอดจองซื้อทั้งหมดจะสูงกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากมองตามความเป็นจริงจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายความว่าจะมียอดจองซื้อเกิน 60-80 เท่า จากการประเมินมูลค่าสูงสุดของการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะที่เกือบ 999 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะวางแผนที่จะขายโทเค็น 5% ซึ่งหมายความว่าเป้าหมายการระดมทุนสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกัน การประเมินมูลค่าก่อนเปิดตลาดของ MEGA ในปัจจุบันมีศักยภาพในการเติบโตเพียงประมาณ 4.5 เท่าของศักยภาพในการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ

หากโควตาของ MEGA ถูกกระจายอย่างเท่าเทียมกันตามขนาดการสมัครสมาชิก (ซึ่งในความเป็นจริงไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เป็นเพียงการเน้นย้ำถึงสถานการณ์ "คนเยอะ เงินน้อย") สำหรับทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่สมัครสมาชิก กำไรจริงจะอยู่ที่ประมาณ 0.056-0.075 ดอลลาร์เท่านั้น (ตัวเลขเดิมคือ 0.04 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นข้อผิดพลาดในการคำนวณ) ในทางตรงกันข้าม การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะของ XPL ได้รับ 1.50 ดอลลาร์สำหรับทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่สมัครสมาชิก ซึ่งถือเป็นความแตกต่างอย่างมาก

MegaETH ได้เปิดเผยว่าเงินจัดสรรขั้นต่ำสำหรับบัญชีที่ชนะแต่ละบัญชีอยู่ที่ 2,650 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นกำไรขั้นต่ำราวๆ 10,000 ดอลลาร์ แต่ลองคำนวณง่ายๆ กันดู:

• หากบัญชีที่ชนะทุกบัญชีได้รับการจัดสรรขั้นต่ำ 2,650 ดอลลาร์ ก็จะมีบัญชีที่ชนะทั้งหมดประมาณ 18,867 บัญชี
• หากบัญชีที่ได้รับรางวัลแต่ละบัญชีได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ ก็จะมีบัญชีที่ได้รับรางวัลทั้งหมดประมาณ 10,000 บัญชี
• อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ลงทะเบียนเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะในวันแรกมีมากกว่า 1 แสนรายแล้ว และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 400,000 ถึง 500,000 รายในที่สุด

พูดอย่างง่ายๆ ก็คือ มีเพียงประมาณ 1 ใน 50 คนเท่านั้นที่สามารถชนะการประมูลและได้รับโควตา

พูดตรงๆ ก็คือ คุณไม่สามารถหวังพึ่งแค่ "จ่ายเงินแล้วภาวนา" เพื่อหาเงินได้ ไม่ว่าคุณจะลงทุน 10,000 ดอลลาร์หรือ 180,000 ดอลลาร์ (วงเงินสูงสุดคือ 186,282 ดอลลาร์) ถ้าคุณไม่ถูกรางวัลลอตเตอรี่ คุณก็จะไม่ได้อะไรเลย

ฉันเชื่อว่า MegaETH จะให้ความสำคัญกับสมาชิกตามตัวบ่งชี้เฉพาะ เช่น:

• ไม่ว่าจะมีการเปิดเผยผ่านสื่อหรือได้รับอิทธิพลจากชุมชนก็ตาม
• มีการบันทึกแบบแอคทีฟบนเชนที่ลึกหรือไม่

ทีมงานโครงการให้ความสำคัญกับกลุ่มเหล่านี้มากกว่าที่จะจัดสรรเงินจำนวนหนึ่งให้กับทุกคน

แล้วใครบ้างที่สามารถสร้างรายได้จากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะได้จริง?

• หากคุณมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การคัดเลือกที่เป็นไปได้ (มีสื่ออยู่, มีบันทึกบนเครือข่ายที่ใช้งานอยู่) — เป็นไปได้อย่างแน่นอนที่จะสร้างรายได้นับหมื่นดอลลาร์ต่อวัน
• หากคุณเป็น MegaETH OG ตัวจริง คุณสมควรได้รับการจัดสรรโควตาอย่างแน่นอน
• แต่หากคุณเป็นเพียงนักลงทุนรายย่อยที่ไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ และรู้เพียงวิธีการลงทุนใน Stablecoin เท่านั้น ผลตอบแทนที่คาดหวังก็อาจเป็นศูนย์

สรุปแล้ว นี่คือตรรกะที่สอดคล้องกันของตลาดสกุลเงินดิจิทัล: หากคุณไม่ใช่คนตื่นเช้า คุณก็จะเป็นทางออกของคนอื่น

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าสู่ยุคเฟื่องฟูของ ICO คือช่วงที่ XPL เสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณควรทุ่มทุนเต็มที่ หากคุณเพิ่งตื่นตอนนี้ มันอาจจะสายเกินไปแล้ว ท้ายที่สุดแล้ว การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะของ MEGA ไม่ใช่ลอตเตอรี แต่มันมีกลไกการคัดเลือก จุดประสงค์ของมันไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์ให้กับประชาชนทั่วไป แต่เพื่อรวบรวมผลกำไรที่แท้จริงไว้ในมือของคนเพียงไม่กี่คน

อย่าเข้าใจผิดว่าการโฆษณาเกินจริงเป็นโอกาส นี่ไม่ใช่ XPL อีกแล้ว แต่เป็นเพียง FOMO อีกครั้ง นักลงทุน 95% จะกลับบ้านมือเปล่า และมีเพียง 5% เท่านั้นที่จะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ย

และความจริงที่โหดร้ายที่สุดก็คือ คุณรู้แล้วว่าคุณอยู่ฝ่ายไหน