ตามรายงานของ Odaily Planet Daily ซาราห์ บรีเดน รองผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งอังกฤษ (Bank of England) กล่าวว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรวางแผนที่จะก้าวให้ทันสหรัฐฯ ด้านการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลแบบ Stablecoin โดยเชื่อว่าการปรับกฎระเบียบให้สอดคล้องกันในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าราว 3.1 แสนล้านดอลลาร์นี้ “เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง” ในการกล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุม SALT ที่กรุงลอนดอน เธอระบุว่าสหราชอาณาจักรจะดำเนินการตามกรอบการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลแบบ Stablecoin “อย่างรวดเร็วพอๆ กับสหรัฐฯ” เพื่อตอบสนองต่อความกังวลที่ว่าสหราชอาณาจักรกำลังตามหลังสหรัฐฯ บรีเดนเปิดเผยว่าธนาคารกลางแห่งอังกฤษจะเผยแพร่เอกสารหารือเกี่ยวกับการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลแบบ Stablecoin ในวันที่ 10 พฤศจิกายน และขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากผลการประชุมในเดือนกันยายนระหว่าง ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหราชอาณาจักร และ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งทั้งสองได้ตกลงที่จะเสริมสร้างการประสานงานด้านกฎระเบียบในภาคสกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพ ก่อนหน้านี้ องค์กรอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลหลายแห่งในสหราชอาณาจักรได้วิพากษ์วิจารณ์สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่อนุรักษ์นิยมเกินไป โดยให้เหตุผลว่าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนานวัตกรรมและนโยบายของประเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลแคนาดาได้ประกาศแผนการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลแบบ Stablecoin ในสัปดาห์นี้ โดยกำหนดให้ผู้ออกสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนโดยเงินตรา (fiat) ต้องรักษาเงินสำรองให้เพียงพอและจัดตั้งระบบบริหารความเสี่ยง ในระดับสถาบัน เวสเทิร์นยูเนียน, SWIFT, มันนี่แกรม, เซลล์ และสถาบันอื่นๆ ได้ประกาศการผนวกรวมโซลูชัน Stablecoin เมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าตลาด Stablecoin จะเติบโตจาก 310,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบัน เป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2571 (Cointelegraph)
