Xiong Yue: อย่าออกจากตลาดหมี | "Apocalypse of Bulls and Bears"

แขก:

ต่อไปนี้คือสำเนาของการสัมภาษณ์นี้:

ซง เยว่:ฉันไม่ได้โม้นะ 555 ความเข้าใจและความรู้ของฉันในตอนนั้น (ปี 2012) ก็ไม่ต่างจากปัจจุบันมากนัก

Bitcoin เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยให้เราสามารถถ่ายโอนมูลค่าบนอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม และมีการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง

เราทุกคนทราบดีว่าครู BM (ผู้ก่อตั้ง EOS) พูดคำว่า "จะเกิดอะไรขึ้นถ้า" เป็นจำนวนมากในช่วงสองวันที่ผ่านมา ซึ่งกระตุ้นความกังวลในชุมชน EOS แต่ Satoshi Nakamoto ได้ "วิ่งหนี" มาหลายปีแล้ว และ Bitcoin ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม หากต้องมีการรับรู้ใหม่ๆ ก็ควรคิดให้ชัดเจนเกี่ยวกับแง่มุมที่สำคัญและเป็นแกนหลักของ Bitcoin ในระหว่างการอภิปรายขยายตัวระหว่างปีที่แล้วและปีที่แล้ว

เมื่อ Bitcoin ออกมาครั้งแรก คุณสมบัติหลายอย่างได้รับการส่งเสริมในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น จำนวนรวม 21 ล้านจะไม่เกิน ตัวอย่างเช่น บุคคลควบคุมทรัพย์สินของตนเองอย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่น สามารถส่งไปยัง ในโลกในอัตราที่ต่ำมาก ไม่มีใครจะจัดอันดับแอตทริบิวต์เหล่านี้ตามลำดับ

ต่อมาด้วยการพัฒนาของ Bitcoin และจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น คนกลุ่มเล็ก ๆ ในชุมชนก็เริ่มเรียกร้องให้มีการขยายตัว จากนั้นฉันก็ค้นพบว่ามีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันสองแบบสำหรับ Bitcoin

บางคนคิดว่าการชำระเงินรายวัน เช่น การซื้อกาแฟ ควรเป็นแบบออนไลน์ด้วย

คนอีกกลุ่มหนึ่งชี้ให้เห็นจากมุมมองเชิงปฏิบัติว่าแม้ว่าจะมีการขยายตัว แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับ Bitcoin ที่จะใช้สำหรับการชำระเงินรายวัน การเพิ่ม TPS จากไม่กี่เป็นสิบเป็นร้อยนั้นไม่มีความหมายและสามารถใช้ได้เท่านั้น เครือข่าย Lightning ระดับบนหรือกระเป๋าเงิน offchain เพื่อชำระเงิน

เมื่อวิสัยทัศน์ทั้งสองนี้ขัดแย้งกัน ฉันไม่ลังเลเลยที่จะเข้าข้างสิ่งหลัง

เพราะสิ่งที่ดึงดูดให้ฉันมาที่ Bitcoin ไม่ใช่ความสะดวกสบายในการชำระเงิน แต่เป็นสกุลเงินฟรี เทียบกับความสะดวกสบายในการชำระเงินก็เทียบ Alipay ไม่ได้อยู่ดี

ฉันเห็นด้วยกับคำกล่าวของ Richard Heart โดยส่วนตัว: "ดังนั้นคุณต้องเข้าใจพีระมิดนี้ ชั้นบนสุดคือการต่อต้านการเซ็นเซอร์ ประการที่สองคือความปลอดภัย ประการที่สามคือการขยายการประชาสัมพันธ์และการตลาด ประการที่สี่คือการวางแนวคุณค่า ประการที่ห้าคือประสบการณ์ของผู้ใช้"

นอกเหนือจากนั้น การรับรู้ของฉันเกี่ยวกับ Bitcoin ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เพราะ Bitcoin เองก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

ซง เยว่:ในปี 2012 โดยพื้นฐานแล้วไม่มีวงกลม Bitcoin เกิดขึ้น ฮ่า. ในเวลานั้นมีบริษัท bitcoin เพียงแห่งเดียวในจีน ซึ่งตอนนี้ปิด bitcoin China แล้ว OKCoin (OKEx) และ Huobi ยังไม่ได้เปิด

แม้กระทั่งทุกวันนี้ แวดวง Bitcoin ในประเทศยังเป็นกลุ่มเล็กๆ ตามการสังเกตของฉัน มีผู้คนมากถึงสามถึงห้าล้านคน ตอนนั้นยังเล็กกว่านี้อีก และมีคนประปรายบน Weibo

แต่คนไม่กี่คนเหล่านี้เป็นนักเทศน์ระดับราชา เช่น ราชาแห่งสกุลเงินใน Weibo, Bitcoin, Changjia, Bitcoin QQagent (Wu Jihan), P2PBUCKS (เพื่อนร่วมงานของฉัน Sihai) และ Li Xiaolai พวกเขาทั้งหมดเป็นแนวคิดขั้นสูง คน .

ในเวลานั้น โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครรู้เกี่ยวกับ Bitcoin บางครั้งผู้ที่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มักคิดว่า Bitcoin ไม่มีค่า ฟองสบู่ และโครงการ Ponzi เราทะเลาะกับคนเหล่านี้ทางอินเทอร์เน็ตทุกวัน

ตั้งแต่ปี 2013 บางคนจากแวดวงเงินร่วมลงทุนได้ค่อยๆ เข้าสู่ตลาด และค่อยๆ เริ่มก่อตัวเป็นแวดวงสกุลเงิน ทุกคนพยายามหลายครั้งเกี่ยวกับ Bitcoin และส่วนใหญ่ล้มเหลว ตัวอย่างเช่น มีตลาดสับปะรดที่ต้องการเป็นห้างสรรพสินค้า bitcoin และ Gempay ที่ต้องการเป็นการชำระเงินด้วย bitcoin

หลายคนอิจฉาผู้ที่เข้าสู่ตลาดเร็ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่เข้าสู่ตลาดก่อนเวลามักจะก้าวข้ามหลุมพรางนับไม่ถ้วน และผู้ที่เข้าสู่ตลาดในปี 2560 อาจไม่มีความสุข

สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือ Bitcoin ราชาแห่งเงินตรา เคยบอกฉันว่า Bitcoin จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 หยวน ฉันคิดกับตัวเอง คุณบ้าหรือเปล่า

ในเวลานั้น Bitcoin เพิ่งเพิ่มขึ้นจากมากกว่า 60 หยวนเป็นมากกว่า 100 หยวน

เซียงเยว่: วิชาเอกระดับปริญญาตรีของฉันคือวิทยาศาสตร์การอาหาร และปริญญาโทของฉันจะตามมา แต่ข้าพเจ้าเริ่มหมกมุ่นกับเศรษฐศาสตร์เมื่อข้าพเจ้ากำลังจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท หลังจากสำเร็จการศึกษา ฉันไปที่โรงงานในฐานะผู้ฝึกงานด้านการจัดการเป็นเวลากว่าสองปี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วน่าเบื่อ

ในตอนท้ายของปี 2013 Bitcoin ประสบกับการพุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ฉันได้กำไรเพียงเล็กน้อยภายในเวลาเพียงสองปีหลังจากสำเร็จการศึกษา ฉันเริ่มมองอาชีพเดิมของฉัน และตัดสินใจบอกลาชีวิตที่แล้ว

ขณะนั้นข้าพเจ้าได้สั่งสมประสบการณ์ด้านเศรษฐศาสตร์มาบ้างแล้ว "โศกนาฏกรรมของเงินยูโร" ที่ฉันแนะนำก็ได้รับการเผยแพร่เช่นกัน ซึ่งทำให้ฉันเริ่มมีความสัมพันธ์ในแวดวงวิชาการของออสเตรีย และฉันตัดสินใจลงลึกในทิศทางนี้อีกเล็กน้อย

ดังนั้นฉันจึงเขียนถึงผู้เขียนเรื่อง "The Tragedy of the Euro" และศาสตราจารย์ฟิลิปป์ บากุส ซึ่งเป็นอาจารย์คนต่อมาคนหนึ่งของฉัน ขอให้เขาแนะนำฉันให้อ่านหลักสูตรปริญญาโทของศาสตราจารย์ Jesus Huerta de Soto มีการตอบกลับเร็ว ๆ นี้ จากนั้นฉันก็ลาออกจากงาน

ซง เยว่:Tongtianyi มีความหมายเกือบทุกอย่างสำหรับฉัน นี่คือสิ่งที่กำหนดฉัน

จริงๆ แล้วเป็นเรื่องยากมากที่ชีวิตของคนๆ หนึ่งจะได้รับการจดจำอย่างแท้จริง แต่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนที่สนับสนุนการตลาดทั่วโลกรู้ว่าฉันได้แปลและแนะนำงานจำนวนมากภายใต้สภาวะที่ยากลำบากอย่างยิ่งในประเทศจีน เหมือนกับเมื่อคุณนึกถึง Assange คุณจะนึกถึง WikiLeaks และเมื่อคุณนึกถึง Satoshi Nakamoto คุณจะนึกถึง Bitcoin ฉันแทบจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในชีวิตไม่ได้เลย

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงคุณ BM คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะนึกถึง BTS, steem, EOS หรือโปรเจ็กต์ต่อไป ฮ่าๆ

ฉันได้ยินเกี่ยวกับ Bitcoin เป็นครั้งแรกจากสมาชิกคนอื่น Mikko และฉันสามารถยอมรับแนวคิดของ Bitcoin ได้ทันทีเพราะฉันอ่าน "The Ethics of Currency Production" ที่แปลโดย Mr. Dong Ziyun เมื่อหลายปีก่อน

"ความลับเบื้องหลังเงินตรา" ที่เราแปลรวมกันมียอดวิวนับล้านในปีนั้น กล่าวได้ ว่าเป็นวิดีทัศน์ความรู้เรื่องเงินตราของใครหลายคน

Pan Chao นักวิจัยของ Xiaoxianrou ของ MakerDao ก็เป็นผลิตภัณฑ์ของ WoTong และ "The Secret Behind Currency" ก็มีส่วนร่วมของ Pan Chao

หนังสือที่พิเศษที่สุดสำหรับฉันคือ "The Theory of Pure Time Preference Interest" จัดพิมพ์โดย Shanghai University of Finance and Economics Press เป็นหนังสือที่ฉันแปลเองโดยอิสระซึ่งเต็มไปด้วยคำศัพท์แปลกๆ และน่าเบื่อ เพียงเพื่อพิสูจน์ความสามารถของฉัน

ความยากของหนังสือเล่มนี้ไม่ธรรมดา นักวิชาการหนุ่มชาวออสเตรียที่ฉันพบในสหรัฐอเมริกาไม่เข้าใจดีนัก ดังนั้นฉันจึงไม่แนะนำให้ทุกคน เพราะฉันแน่ใจว่ามันจะยากสำหรับคุณที่จะยืนหยัด ในการอ่านสิบหน้าแรก

ฉันขอแนะนำให้คุณอ่าน "จริยธรรมของการผลิตเงินตรา" และ "โศกนาฏกรรมของเงินยูโร" ที่กล่าวถึงในตอนนี้ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นทฤษฎีการเงินจากมุมมองของโรงเรียนในออสเตรีย

หากคุณไม่ทราบเกี่ยวกับโรงเรียนออสเตรียมากนัก คุณสามารถอ่าน "ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์โรงเรียนในออสเตรีย" และ "ปริญญาโทของโรงเรียนออสเตรีย"

ซง เยว่:ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เป็นโรงเรียนของออสเตรียมาโดยตลอด ซึ่งเป็นเศรษฐศาสตร์ที่มีอำนาจอธิบายที่แข็งแกร่งที่สุดต่อโลกแห่งความเป็นจริง ความสับสนและความไม่เข้าใจโลกของฉันเมื่อตอนที่ฉันยังเป็นเด็กพบคำตอบในเศรษฐศาสตร์ของออสเตรีย

ผู้ที่มีพื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์อาจได้รับการฝึกฝนแบบนีโอคลาสสิกก่อน แต่ฉันย้ายจากวิศวกรรมศาสตร์ ดังนั้นฉันจึงแน่วแน่ในการสนับสนุนโรงเรียนในออสเตรียตั้งแต่แรก

เศรษฐศาสตร์โรงเรียนของออสเตรียเป็นสายมืดในแวดวงสกุลเงินดิจิทัล

ในวงการเงินตรามีผู้ปฏิบัติจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ปฏิบัติยุคแรกซึ่งเป็นผู้ศรัทธาของโรงเรียนออสเตรียทั้งหมด แมวย่างเป็นหนึ่งในนั้น

ในเวลานั้น ฉันกล้าซื้อหุ้นของ Roasted Cat เพราะฉันรู้จักบุคคลนี้ใน Douban มานานแล้ว

Bitcoin ราชาแห่งเงินตราเพิ่งกล่าวถึงเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาที่ทรงพลังที่สุดในยุคแรก ๆ ของ Bitcoin เขามีแฟน Weibo หลายหมื่นคนในปี 2555 และ 2556 และรากฐานของโรงเรียนในออสเตรียของเขาก็แข็งแกร่งมาก เขายังสนับสนุนงานแปลบางโครงการของฉันด้วย

Jeffrey Wernick เป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในแวดวงนี้ เขาจบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จาก University of Chicago ฉันคุยกับเขาแล้ว เขาเป็นคนออสเตรียแท้ๆ เป็นเพื่อนกับ Hayek และเขายังคุ้นเคยกับ ผลงานทางวิชาการของที่ปรึกษาของฉัน

CEO ของ Overstock ยังเป็นผู้สนับสนุนของ Austrian School อีกด้วย ตอนที่ฉันอยู่ที่ Mises Institute ในปี 2015 เขายังบรรยายวิดีโอให้ฉันด้วย เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาวางแผนที่จะปิดธุรกิจค้าปลีกและทั้งหมดในบล็อกเชน

BM ผู้ก่อตั้ง EOS อ้างว่าเป็นผู้ศรัทธาและผู้ปฏิบัติงานของโรงเรียนในออสเตรีย

ฉันไม่ชอบที่จะกล่าวถึง Hayek และ "Denationalization of Money" ของเขาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นระหว่างโรงเรียนในออสเตรียกับสกุลเงินดิจิทัล เพราะหาก Hayek ยังมีชีวิตอยู่ เขาคงไม่ชอบ Bitcoin

แต่สิ่งเหล่านี้ที่โรงเรียนในออสเตรียเชื่อนั้นเป็นพื้นฐานมูลค่าสูงสุดของสกุลเงินดิจิทัลอย่างไม่ต้องสงสัย หากไม่มีปัญหากับระบบการเงินที่นำโดยรัฐบาล เราจะสร้างสกุลเงินดิจิทัลอีกทำไม

ซง เยว่:ผมไม่ได้ศึกษาเชิงลึกของปรมาจารย์ด้านการลงทุนเหล่านี้ เพราะประสบการณ์การลงทุนนั้นไม่มีใครเทียบได้กับตลาด

จ้าวแห่งไสยศาสตร์ไร้ประโยชน์จริงๆ

ไม่กี่วันก่อน มีบทความหนึ่งที่ทำให้วงเพื่อนแตกตื่น "คนที่เขียนหนังสือสอนคุณเทรดออปชันเสียตำแหน่ง"

Blog Chain Finance: มนุษย์กำลังมองหากฎสากลของการเติบโตของความมั่งคั่ง กฎนี้แน่นอนหรือมีวิวัฒนาการหรือไม่?

ซง เยว่:สิ่งสำคัญคือผลประโยชน์ต้องอยู่คู่กับความเสี่ยง แม้ว่าโอกาสจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรับรู้ได้ ในเวลานั้น โดยพื้นฐานแล้วทุกคนในแวดวงสกุลเงินมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับ Bitcoin และเชื่อว่าจะรับประกันได้ แต่มีเพียง Zhao Dong เท่านั้นที่ขายบ้านของเขาเพื่อถือครอง Bitcoins ทั้งหมด

สิ่งที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องคือโอกาสในการทำเงินนั้นแตกต่างกันทุกครั้ง

ในช่วงแรก ๆ ตราบใดที่คุณเต็มใจซื้อเหรียญคุณก็จะทำเงินได้มากมาย จากนั้นในปี 2015 ผู้ที่ทำเงินได้จากการขุด และในปี 2017 พวกเขาลงทุนใน ICO โอกาสต่อไปจะเป็นอย่างไรฉันไม่รู้

ดังนั้นกฎหมายนี้จึงมีทั้งความชัดเจนและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ซง เยว่:ฉันเริ่มซื้อ Bitcoin ในเดือนสิงหาคม 2012 ตลาดหมีมีสองส่วนใหญ่ ครั้งแรกคือ ในเดือนธันวาคม 2013 เมื่อมีการออกเอกสารของกระทรวงและคณะกรรมาธิการทั้ง 5 แห่ง มันเริ่มดิ่งลงและดีดตัวขึ้นหลายครั้งจนถึงเดือนสิงหาคม 2015

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่ต้นปี 2018 ถึงปัจจุบัน กราฟิคจะคล้ายๆ

หากตลาดหมีต้องการอยู่รอดก็อาศัยความตายเท่านั้น เจ้านายทุกคนที่ฉันรู้จักรอดชีวิตอย่างน่าสังเวชในตลาดหมี

กระแสเงินสดที่เป็นบวกมีความสำคัญมาก

ซง เยว่:สิ่งที่น่าพึงพอใจที่สุดคือ Bitcoin

ได้เวลาโหวตแล้ว แต่โหวตไม่เยอะ ทั้ง neo และ TRON

ฉันไม่ควรโหวต ฉันโหวตให้ Roasted Cats และ 796 เป็นหลัก

น่าเสียดายที่ฉันรู้ว่าเครื่องขุดและการแลกเปลี่ยนจะทำเงินได้เร็วขนาดนี้ และลงเอยด้วยการลงทุนในไอ้ขี้โกงสองตัวนี้

ซง เยว่:ฉันสามารถรับประกันได้ว่า Bitcoin ยังคงอยู่ที่นั่น นับตั้งแต่เกิดสกุลเงินดิจิทัล มีเพียง Bitcoin เท่านั้นที่ได้อันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง และอันดับของสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อันที่จริงฉันเป็นคนหนึ่งที่ชี้ให้เห็นก่อนหน้านี้ว่าไม่ควรมีความเชื่อใน Ethereum

ผู้ที่เข้าสู่ตลาดในปี 2560 มองว่า Bitcoin และ Ethereum เป็นสกุลเงินแข็งในแวดวงสกุลเงิน แต่ในความเป็นจริงมีเพียง Bitcoin เท่านั้น

เมื่อเราได้สนทนากัน 1 Ethereum มีมูลค่าประมาณ 0.1 BTC

(ตอนนี้ 1 eth มีค่าประมาณ 0.027 BTC)

ดังนั้นตัวแรกคือ Bitcoin และอีก 9 ตัวถัดไปไม่รู้

ซง เยว่:Bixin มีส่วนร่วมในทุกหมวดหมู่ที่คุณกล่าวถึง แต่รากฐานที่สำคัญของธุรกิจของเราคือกระเป๋าเงิน

หากเราเลือกอีกครั้ง เราน่าจะทำ wallet ต่อไป อันที่จริง เราทำ wallet มาก่อนที่ Bixin (HaoBTC) จะก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2014

มันถูกเรียกว่า OpenBlock ในเวลานั้น และเป็นกระเป๋าเงิน Onchain หลายสกุลเงินบนเว็บ รองรับ Bitcoin, Litecoin, Dogecoin และ Darkcoin ตอนนั้นฉันยังใช้งานมันอยู่

กระเป๋าเงินนั้นเป็นธุรกิจขนาดใหญ่

ในทางเทคนิคแล้ว offchain wallet นั้นไม่ได้แตกต่างไปจากการแลกเปลี่ยนโดยพื้นฐาน

ซง เยว่:ผู้คนมีความน่าเชื่อถือ Daxiong ผู้ก่อตั้ง Bechuang เคยทำงานใน Babbitt ทีมของ Li Xiaolai และ Bixin ดังนั้น Bixin ไม่เพียงแต่ลงทุนใน Bixin เท่านั้น แต่ยังรวมถึง Xiaolai และ Laomao (Coin Capital, Longmen Fund)

การลงทุนคือการลงทุนในคน

กับคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ลงคะแนน

ซง เยว่:เป็นเรื่องยากสำหรับเมืองอื่น ๆ ที่จะบุกทะลวง บริษัทที่ยอดเยี่ยมบางแห่งอาจออกมา แต่เป็นการยากที่จะสร้างระบบนิเวศโดยรวม

ปักกิ่ง เซินเจิ้น และหางโจวสอดคล้องกับ BAT และรากฐานนั้นดีมากจริงๆ

Blockchain เป็นธุรกิจระดับโลกและไม่จำเป็นต้องมีโซนพิเศษ

คำอธิบายภาพ

(เหออี้และซงเยว่)

Blog Chain Finance: อิสรภาพแห่งความมั่งคั่งในสายตาคุณเป็นอย่างไร? ถ้าคุณออกจาก blockchain คุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมอะไร? หรือต้องทำอย่างไร?

ซง เยว่:อิสรภาพแห่งความมั่งคั่งในสายตาของฉันไม่ใช่การหยุดทำสิ่งต่างๆ แต่คือการไม่บังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเพื่อการดำรงชีวิต คุณต้องทำสิ่งต่างๆต่อไป

ถ้าฉันออกจากอุตสาหกรรม blockchain หรือฉันไม่มีความมั่งคั่ง ฉันจะไม่ไปที่อุตสาหกรรมนั้นอีก ฉันจะออกอัลบั้มก่อน แล้วจึงทำวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์

หรืออุตสาหกรรมกลับมาเป็นศูนย์แล้ว เราจึงทำได้เพียงเคลื่อนย้ายก้อนอิฐ

ซง เยว่:ฉันชอบการลงทุนที่มุ่งเน้นการเริ่มต้น ฉันทำงานในอุตสาหกรรมนี้ด้วยตัวเอง และลงทุนในบางโครงการที่ฉันรู้จักดีในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งจะมีอัตราความสำเร็จสูง

ซง เยว่:ทุกคนอาจมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์และแร็พอยู่บ้าง

นักเศรษฐศาสตร์น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ตลกที่สุดในโลก

เป้าหมาย 3 ประการของ Schumpeter นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง คือ นักเศรษฐศาสตร์ที่ดี อัศวินที่ดี และคนรักที่ดี ทุกคนควรเข้าใจว่าสองตัวหลังหมายถึงอะไร

David D. Friedman ลูกชายของเจ้าของรางวัลโนเบล Milton Friedman เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเช่นกัน เขาเป็นเพื่อนของฉัน ฉันโพสต์รูปเขาเล่น World of Warcraft มีผู้เข้าชม 60 ล้านครั้งบน Weibo อันที่จริงเขายังเล่นอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ เช่น การเขียนนวนิยาย

การประชุมประจำปีของสถาบันวิจัย Mises ซึ่งเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของออสเตรียมีช่วงคาราโอเกะซึ่งจัดขึ้นโดย Robert Murphy นักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้สนับสนุน Bitcoin และมักจะมีส่วนร่วมในแวดวงสกุลเงินต่างๆ การประชุม.

ในช่วงปีของฉันที่ Mises Institute โปสเตอร์ของงานนี้คือ Eminem ที่มีใบหน้าของ Murphy บนตัว P จากนั้นฉันกับเพื่อนร่วมชั้นก็ร้องเพลงของ Eminem และ Jay-Z ขณะดื่ม Rap และ R&B เป็นแนวเพลงที่เป็นกระแสหลักที่สุดในสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ การแร็พยังไม่ใช่การแสดงออกแบบสบาย ๆ ทั้งหมด ส่วนของการแสดงออกแบบสบาย ๆ เรียกว่าฟรีสไตล์ แต่จะควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้น แร็ปเปอร์ที่ดีต้องก้าวทุกจังหวะในการแร็ป ระดับเสียง ระดับเสียง ความเร็ว อารมณ์และอื่น ๆ ต้องถูกต้อง คว้า

ในความเป็นจริง แร็พเป็นเพียงรูปแบบและพาหะ มันถูกวางเคียงกับบทกวีหรือเรียงความ คุณสามารถใช้ฟอร์มและพาหะนี้เพื่อแสดงอะไรก็ได้

แร็ปเปอร์หลายคนใช้แร็พเพื่อแสดงข้อสังเกตเกี่ยวกับสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่เศรษฐศาสตร์ทำ

ดังนั้นการแร็พจึงเหมาะกับการนำมาผสมผสานกับเศรษฐศาสตร์โดยธรรมชาติ

มีเพลงที่โด่งดังมากชื่อ "Keynes vs. Hayek" ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วร้องเพลงความแตกต่างทางวิชาการหลักระหว่าง Keynes และ Hayek

ซง เยว่:Zhao Dong จาก DGroup (Dfund) ลุง Dong เป็นผู้ประกอบการที่แท้จริง ครั้งหนึ่งเขาเคยสูญเสียโกดังที่ถูกชำระบัญชีไปหลายร้อยล้านและเป็นหนี้หลายสิบล้าน แต่เขา "ฟื้นตัว" อีกครั้ง ลุงต๋องมีความกระตือรือร้นและเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง

จากนั้นก็มี Zongsihai เพื่อนร่วมงานของฉัน Sihai (P2PBUCKS เพิ่งกล่าวถึง) ก็เป็นหนึ่งในผู้ประกาศข่าวประเสริฐที่เก่าแก่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในประเทศจีน เขาสร้าง Bibac ซึ่งเป็นเว็บไซต์ให้ความรู้เรื่อง bitcoin ของฉัน และเขายังสร้าง wallet.la กระเป๋าสตางค์ offchain แห่งแรกของจีนด้วย (ซึ่งก่อนหน้า Bixin) Four Seas มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเงินและเทคโนโลยี

ชื่อเรื่องรอง

ปฏิสัมพันธ์ทางอินเทอร์เน็ต

ซง เยว่:โมเดลสิ่งจูงใจของหลาย ๆ โครงการนั้นแปลกมาก ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถเล่นต่อได้ในที่สุด

บริษัทที่มีชื่อเสียงหลายแห่งได้ออกเหรียญ แต่การถือครองโทเค็นนั้นไร้ประโยชน์

กล่าวคือ สกุลเงินมีเพียงอุปทานและไม่มีอุปสงค์

ซง เยว่:โทเค็นของการแลกเปลี่ยนหลายแห่งได้เพิ่มเงินปันผลของค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน ซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่ดีกว่า

ดังนั้นหากคุณดูการจัดอันดับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด BNB, HT และ OKB ล้วนอยู่ในอันดับที่สูงมาก

ซง เยว่:รู้สึกเหมือนถอยหลังหนึ่งก้าว

สิ่งที่อยู่ในวงกลมการเงินถูกคัดลอกไปยังวงกลมสกุลเงิน

ทุกสิ่งที่วงกลมสกุลเงินไล่ตามหายไปแล้ว และมันได้กลับไปสู่แนวทางเดิมของการเล่นในวงกลมการเงิน

ฉันคิดว่ามันควรจะเป็น ICO ที่ได้รับการปรับปรุง เช่นที่เสนอโดย V God

สาเหตุหลักของความโกลาหลของ ICO คือการระดมเงินมากเกินไปในคราวเดียวและไม่มีวิธีจัดการ

ในอนาคตสามารถปลดล็อกได้ตามเหตุการณ์สำคัญ

คุณบรรลุเป้าหมายประสิทธิภาพใดและจะปลดล็อกให้คุณเท่าไร

ซง เยว่:ไม่มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสินทรัพย์ทางการเงินที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งก็คือสกุลเงิน เพดานคือสิ่งที่มนุษย์จะได้รับในอนาคต ทางด้านซ้ายคือความมั่งคั่งทางวัตถุของมนุษย์ ทางด้านขวาคือ Bitcoin

ในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะมีการแยกยูนิตเพื่อใช้งานต่อไป

ซง เยว่:ลงทุนใน BTC อย่างสม่ำเสมอ

ระวังอย่าลงจากรถ หลายคนลงจากรถแล้วกลับมาไม่ได้

มีหลายชื่อที่โด่งดังในสมัยนั้นซึ่งหายไปหมดแล้ว

คุณสามารถขายเหรียญหรือถือ USDT บางส่วนได้ แต่อย่าเปิดสถานะ Short สถานะ Short จะทำให้คุณไม่สนใจตลาดนี้อีกต่อไป

ฉันพลาดเมื่อตลาดกระทิงเริ่มต้นใหม่