หนังสือพิมพ์ 21st Century Business Herald รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม สำนักงานอัยการประชาชนกรุงปักกิ่งได้เผยแพร่ "กรณีศึกษาทั่วไปเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการสูงสุดด้านการเงินอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ" (2567-2568) ซึ่งรวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องกับ "การปลอมแปลงการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยใช้สกุลเงินเสมือน มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านหยวน" ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2566 หลิน เอ ได้ร่วมมือกับหลิน บี เซี่ย เป่า และเฉิน ภายใต้คำสั่งของผู้อื่น เพื่อใช้บัตรธนาคารหลายใบในชื่อของบุคคลห้าคน เพื่อรับเงินหยวนจำนวนมากจากลูกค้า "ต้นทาง" ขององค์กรแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย เช่น หลิว แก๊งนี้ใช้สกุลเงินเสมือนเป็น "สะพาน" เพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนเงินข้ามพรมแดน หลิน เอ และคนอื่นๆ ได้แปลงเงินหยวนที่ได้รับเป็น USDT ผ่านบัญชีแพลตฟอร์มซื้อขาย Tether (USDT) หลายบัญชีที่พวกเขาควบคุม จากนั้นจึงดำเนินการโอนเงินข้ามพรมแดนผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งถือเป็นการปลอมแปลงการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและแสวงหากำไรจากเงินที่ได้ รายงานระบุว่า กิจกรรมทางธุรกิจผิดกฎหมายทั้งหมดของแก๊งนี้มีมูลค่ามากกว่า 1.182 พันล้านหยวน ซึ่งสมาชิก 5 คน รวมถึงเซี่ยและเป่า ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมมูลค่าตั้งแต่กว่า 149 ล้านหยวนไปจนถึงกว่า 469 ล้านหยวน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ศาลประชาชนเขตไห่เตี้ยนในกรุงปักกิ่งได้มีคำพิพากษาชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 5 คนเป็นเวลาตั้งแต่สองถึงสี่ปีในข้อหาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายและปรับเงินจำนวนดังกล่าว
