รายงานการวิจัยเชิงลึกของ Messari ปี 2022 เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการเข้ารหัส (3): ความคิดสิบประการเกี่ย
การอ่านที่เกี่ยวข้อง:หัวข้อ | Messari 2022 In-Depth Research Report on Encryption Industry
ข้อความต้นฉบับมาจาก Messari ชื่อเดิมคือ "Crypto Theses สำหรับปี 2022" ผู้แปล | W3.Hitchhiker
หัวข้อ | Messari 2022 In-Depth Research Report on Encryption Industry
บทที่ 3 - 10 ความคิดเกี่ยวกับ Bitcoin
บทที่ 3 10 ความคิดเกี่ยวกับ BitcoinSu Zhu
1. ดูมุมมองของ Peter SchiffPeter Schiff。
"ทองจะถูกปีศาจทำลายอย่างไร้ความปราณี และหลานๆ ของคุณจะคิดว่าคนขุดทองคือคนที่เก็บเศษโลหะในถังขยะและขายมันด้วยเงิน" ——Woonomics）
Bitcoin ได้รับประทานอาหารกลางวันในทศวรรษทองแล้ว ช่วงเวลาเหล่านี้ควรจะเป็นช่วงเวลาที่เฟื่องฟูสำหรับผู้ชื่นชอบทองคำ — เงินเฟ้อสูง ความไว้วางใจรัฐบาลต่ำ สินค้าโภคภัณฑ์เฟื่องฟู — แต่ทองคำถูกขนาบข้างด้วย Bitcoin ที่เร็วกว่า อายุน้อยกว่า และแข็งแกร่งกว่า การลงทุนทองคำ 100 ดอลลาร์เมื่อ 10 ปีก่อนจะกลับมาเป็น 102 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกัน การลงทุน 100 ดอลลาร์ใน BTC จะให้ผลตอบแทน 1.7 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลานั้น อุ๊ยPaul Tudor Jones, Tesla, El Salvador, Miami,คำอธิบายภาพ
Marty Bent(แหล่งที่มา:Bitcoin ยังไม่แสดงสัญญาณของการชะลอตัว เมื่อพิจารณาจากกระแสลมขนาดใหญ่และความยืดหยุ่นแบบหลายวัฏจักร มันจึงยากที่จะจินตนาการถึงสถานการณ์ที่ Bitcoin หลุดออกจากความนิยมในเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ดีดตัวกลับ จากมุมมองด้านกฎระเบียบ นักลงทุนมีความสะดวกสบายมากกว่าที่เคยด้วยทองคำดิจิทัล ขณะนี้มีหน่วยงานสถาบันหลายแห่งในการเข้าถึง Bitcoin และผู้ใช้รายอื่น ๆ ได้ปูทาง (ฯลฯ) "สถาบันกำลังจะมา" เปลี่ยนเป็น "สถาบันมาแล้ว"กระแสลมแรงที่หนุนหลังเราสรุปได้ดีที่สุดเมื่อเขาชี้ให้เห็นว่า: "มีเงินเป็นหนี้ผู้รับบำนาญมากเกินไป สร้างผลตอบแทนน้อยเกินไป และเมื่อเป็นเช่นนั้น สกุลเงินนั้นจะอยู่ในสกุลเงินที่มีกำลังซื้อลดลง โดยมีหุ้นต่ำ ราคาพันธบัตรมีผลตอบแทนที่แท้จริงติดลบและอัตราเงินเฟ้อจะดำรงอยู่ต่อไป
, Bitcoin ยังคงอยู่เปลี่ยนสถาบันหาก QE ลดค่าสกุลเงิน (duh) เช่นนั้น
(แหล่งที่มา:Raoul Pal, Bloomberg)
ราอูล ปัล ชี้
(แหล่งที่มา:
เครื่องพิมพ์เหรียญไป...ซื้อได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเหรียญสีส้ม.2 - ราชาหรือราชา: ไม่มีการพลิกครั้งใหญ่2. ราชาหรือราชา: ไม่มีการพลิกครั้งใหญ่
ฉันคิดว่าความน่าจะเป็นของการ "พลิกกลับ" ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าอาจจะอยู่ที่ 20% ไม่ใช่เพราะ ETH เป็นเงิน โดยไม่คำนึงว่าสิ่งที่ซอเธอบีพูด. หาก ETH แซงหน้า BTC จะไม่ใช่เพราะมันเป็น "สกุลเงิน" ระดับพรีเมียม แต่เป็นเพราะตลาดให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของที่ไม่เหมือนใครที่สุดในโลก และมีศักยภาพในการสร้างรายได้และการเติบโตมากกว่าทองคำดิจิทัล กล่าวอีกนัยหนึ่ง เราจะดู BTC และ ETH เหมือนที่เราดูที่ M0 และ Google
นี่ไม่ใช่ความคิดดั้งเดิม Arthur Hayes ผู้ก่อตั้ง BitMEX
ทำลายการเปรียบเทียบในบทความเกี่ยวกับการอภิปรายที่พลิกผัน
,เขาพูดว่า:
ETH ไม่สามารถเป็นคอมพิวเตอร์เสมือนที่ดีที่สุดในโลกและเป็นสกุลเงินที่ดีที่สุดในโลกในเวลาเดียวกัน (ฉันเห็นด้วย)
เครือข่ายเงินที่ใหญ่ที่สุดของ cryptocurrency อาจจะใหญ่กว่า "บริษัท " เทคโนโลยีการกระจายที่ใหญ่ที่สุด (และฉันเห็นด้วย)
ที่กล่าวว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมองว่า "cryptocurrency" โดยรวมจะมีประสิทธิภาพดีกว่า "Bitcoin" (เช่น การครอบงำของ BTC จะลดลง) ในขณะที่ Bitcoin ยังคงรักษาตำแหน่งในกระดานผู้นำระดับโลกใน สำหรับแพลตฟอร์มการประมวลผลชั้นหนึ่งที่มีการแข่งขันสูง Ethereum เป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่า Bitcoin ทรัพยากรที่หายากของ Ethereum คือความจุที่จำกัดของบัญชีแยกประเภทการชำระเงินทั่วโลก ซึ่งในปีนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเมื่อบัญชีแยกประเภทของ ethereum มีราคาแพงเกินไป ชั้นแรกอื่น ๆ สามารถระบายความต้องการในการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว (เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในบทที่ 8)ในทางกลับกัน ทรัพยากรที่หายากของ Bitcoin คือบันทึกเงินที่เรียบง่าย คู่แข่ง "สกุลเงิน" ที่แท้จริงนั้นน่ากลัวน้อยกว่า: Dogecoin, Shiba Inu, Bitcoin Cash, Craig Cash และส้อมของพวกเขาไม่มีอะไรจะเขียนถึงบ้าน บางทีคุณอาจชอบ Doge มีนักลงทุนที่ชาญฉลาดหลายคนที่ทำเช่นนี้ เช่น Su Zhu ซึ่ง "โดยพื้นฐาน" ชื่นชอบ Doge เนื่องจากมีกระแสสังคม ชุมชน อารมณ์ขัน และฐานผู้ใช้ที่ไม่จริงจัง ผลักดัน memestocks ไปสู่ดวงจันทร์ฉันเข้าใจข้อโต้แย้ง แต่ข้อด้อยประการหนึ่งก็คือ เรื่องตลกอาจเชยได้เหมือนกัน และแม้แต่ผู้ที่อ่านแต่เนิ่นๆ ก็จะรู้ว่าพวกเขากำลังหาผลประโยชน์ที่แท้จริงและหาเรื่องตลกที่ถูกกว่า การสะท้อนกลับไม่ใช่เรื่องสนุกในขาลง และไม่มีสถาบันใดจะซื้อกำแพงสำหรับชิบะอินุที่น่ารักเมื่อแนวโน้มกลับด้าน ฐานผู้ใช้ที่ไม่จริงจังอาจทำให้ผู้ใช้จำนวนมากขายอย่างตื่นตระหนกในไตรมาสแรกเมื่อพวกเขาได้รับใบกำกับภาษีและตระหนักว่าภาระผูกพันของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด นักลงทุน Bitcoin ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับภาษีกำไรจากการขายหุ้น นักพนัน Dogecoin หลายคนน่าจะเป็น
, ฉันอยากจะทำเงินมากกว่าพูดถูก. ZEC ยังอยู่ใน 1% ของพอร์ตของฉัน ฉันยังชอบ Zooko แต่มันไม่ได้อยู่ใน 5 อันดับแรกของฉันอีกต่อไป (คนอื่นแซงหน้า ZEC ไปแล้ว มันไม่ใช่ความผิดของฉัน!)
(แหล่งที่มา:CoinMarketCap)
Bitcoin นั้นไม่มีคู่แข่งที่น่าเชื่อถือเลยนอกจาก Ethereum แต่ ETH ก็จำเป็นต้องดูเบื้องหลังของมันด้วย การครอบงำของ Bitcoin ได้ลดลงจาก 71% เป็น 42% ในปีนี้ นี่มันเลวร้ายมาก แต่การครอบงำแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะของ ETH ก็ลดลงจาก 80% เป็น 60% และอาจส่งมอบมูลค่าเพิ่มเติมให้กับ “พันธมิตร” ระดับที่สองใหม่ที่มีรายชื่อในช่วงต้นปี 2022คำอธิบายภาพอาจมี upside สูงกว่าใน cryptocurrencies แต่
ไม่ผิด. ไม่มีอะไรผิดปกติกับการเป็นเจ้าของ GE ท่ามกลางความร้อนระอุ หุ้น GE เพิ่มขึ้นจาก 100 ดอลลาร์ในกลางปี 2542 เป็น 450 ดอลลาร์ในกลางปี 2543 และกลับมาเป็น 185 ดอลลาร์ในกลางปี 2546 ในเวลาสี่ปี มัน "ทรุด" ถึง 85% เหนือระดับที่พบในการชุมนุมของตลาด หาก Web3 เข้าสู่ความบ้าคลั่งของ Web1 นี่น่าจะเป็นวิถีของ Bitcoin คุณจะรู้สึกขยะแขยงไหมถ้า BTC ลดลงจาก 275,000 ดอลลาร์เป็น 125,000 ดอลลาร์ในปีหน้า
ชื่อเรื่องรอง3. สำรองหลายสายข้อความเราจะพูดถึงความสามารถในการทำงานร่วมกันในบทที่ 8 แต่สำหรับตอนนี้ ฉันอยากจะบอกว่าฉันคิดอูดี้พูดถูก
: หากอนาคตมีบล็อกเชนที่ทำงานร่วมกันได้หลายร้อยหรือหลายพันบล็อก ผู้ใช้ปลายทางก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรือสนใจว่าบล็อกเชนใดที่แอปพลิเคชันสกุลเงินกำลังทำงานอยู่ ผู้ถือ Bitcoin จะถือและใช้ Bitcoin เป็นทางเลือกแทนทองคำดิจิทัลโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับรายละเอียดทางเทคนิคของห่วงโซ่หรือตราสารอนุพันธ์ Bitcoin ที่พวกเขาใช้ในกระบวนการ ตราบเท่าที่ Bitcoin blockchain พื้นฐานกำลังฮัมเพลง สร้างบล็อกทุก ๆ 10 นาทีเป็นเลเยอร์การตั้งถิ่นฐาน มากกว่า 1.5% ของอุปทาน Bitcoin ผ่านไปแล้ว
ห่อหุ้มด้วย Ethereum ผ่าน BitGo
, เพิ่มวงเงินเป็นสองเท่าเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่นี่อาจเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของภูเขาน้ำแข็ง เนื่องจาก bitcoins นับล้านกำลังเริ่มหาทางไปยัง blockchain อื่น ๆ เช่นกัน
ปัจจัยด้านอุปสงค์หลายประการที่ขับเคลื่อน Bitcoin:
BTC จะเป็นสำรองสำหรับ L1 อื่น ๆ และ ETH จะเป็นคู่แข่งของพวกเขาโปรโตคอลการเชื่อมโยงข้ามบล็อกเชน เช่น Rune จะปลดล็อกการแลกเปลี่ยนแบบ peer-to-peer มากขึ้นชาว Ethereum อาจประท้วงว่านี่คือสิ่งที่ทำให้ ETH เป็นสกุลเงินและสินทรัพย์ทุนที่ดี: มันเข้ากันได้กับเครือข่าย EVM อื่น ๆ และการสั่งสม L2 และมันก็เป็นหลักประกันของ Stablecoin เช่น Maker's Dai แล้ว แต่นี่คือการมองย้อนกลับไป มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ BTC อยู่ที่ 2.5 เท่า อัตราส่วนหลักประกันเป็นเงินทุนหมุนเวียนต่ำกว่ามากในปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่ามีการประเมินมูลค่าต่ำเกินไป และ BTC ใหม่ที่เป็นหลักประกัน DeFi มีเพดานที่สูงกว่า ETH มาก ฉันคิดว่าบิตคอยน์แบบห่อหุ้ม/สังเคราะห์ที่ซื้อขายบนบล็อกเชนอื่น ๆ จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอีกครั้งในปี 2022 (75% เชื่อว่าเราจะได้เห็นการห่อบิตคอยน์อย่างน้อย 3%) เนื่องจากผู้ถือบิตคอยน์ระยะยาวตระหนักว่าพวกเขาสามารถยืมได้ถูกกว่าด้วยการถือครองใน DeFi มากกว่าบริการแบบรวมศูนย์ (คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
สินทรัพย์ DeFi ที่อำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันของ Bitcoin
เนื้อหา).
ชื่อเรื่องรอง
แม้จะมีความเป็นพิษของ bitcoin futures ETFs แต่ก็เป็นโชคดีของอุบัติเหตุทางประวัติศาสตร์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. ปกป้องอุตสาหกรรมค้าปลีก (และ Wall Street) จากการบ่อนทำลายกระบวนการอนุมัติเป็นเวลานาน การซื้อขายระดับสีเทา” (บทที่ 5) และการไหลเข้าทางเดียวน่าจะผลักดันความต้องการของสถาบันจากนักลงทุนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากพรีเมี่ยมในตลาดสาธารณะของ GBTC เช่นเดียวกับความต้องการค้าปลีกรูปแบบเฉพาะจากผู้ที่ถือ Bitcoin ในบัญชีเกษียณที่ได้รับการยกเว้นภาษี แต่ถึงอย่างนั้น ดังนั้น ระยะเวลา 8 ปีของ SEC ได้จำกัดการลอยตัวของ Bitcoin ไว้ที่ 5% ในตราสารที่เหมือน ETF การอนุมัติก่อนหน้านี้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการรวมศูนย์สำหรับปริมาณเงินของ Bitcoin ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่น้อยที่สุดในปัจจุบัน ลดโอกาสที่ Wall Street จะจัดการกับตลาด Bitcoin .
Crypto Migration,View this NFT on OpenSea
ฉันจะบันทึกการคาดการณ์ ETF ของฉันให้มากขึ้นสำหรับส่วนอื่นๆ แต่ฉันพนันได้เลยว่าจำนวนรวมของ BTC ที่ถูกล็อคไว้ในยานพาหนะที่เหมือน ETF จะยังคงต่ำกว่า 10% ของอุปทาน Bitcoin หมุนเวียนในอีกห้าปีข้างหน้า ในขณะที่สถาบันขนาดใหญ่อื่น ๆ สร้างตำแหน่ง คนฉลาดจะเข้าถึงโดยตรงและค่าธรรมเนียมถูกลง หากเราเห็นมากกว่า 10% ของอุปทาน Bitcoin ถูกล็อคในโครงสร้าง ETF อาจเป็นเพราะพวกเขารวมอยู่ในข้อเสนอ ETF "อื่นๆ" ตัวอย่างเช่น Ark Invest ถือหุ้น 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน GBTC ใน ARKW
ชื่อเรื่องรองเตือนเราวุฒิสมาชิกวอร์เรนเตือนเตือนเราเราจำเป็นต้อง "ปราบปรามการขุด cryptocurrency ที่สิ้นเปลืองต่อสิ่งแวดล้อม" เพื่อปกป้องโลก ผู้ควบคุมตลาดชั้นนำของสหภาพยุโรปเตือน
ต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมของการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล "เพิ่มขึ้น" เขากล่าว แม้ว่าเราจะได้รับคำเตือนว่าในพอร์ตการลงทุน ESG นั้น “อัตราการเปิดรับแสง“มันกำลังขึ้น — มันเหมือนกับว่า bitcoin เป็นยาพิษอย่างแท้จริง
ข้าพเจ้ารับทราบว่าในหมู่ผู้นำระดับโลก สื่อมวลชนและ
ความรับผิดชอบขององค์กร Greening พนักงาน
ในช่วงเวลาที่หมกมุ่นกับการปล่อยมลพิษ เครือข่าย Bitcoin ทั่วโลกจะใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งถือว่าไม่ดี อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานของ Bitcoin เป็นเพียง "ปัญหา" เท่านั้น เนื่องจากนักการเมืองและผู้เชี่ยวชาญสื่อกระแสหลักส่วนใหญ่โง่เขลา เกียจคร้าน หรือไม่ซื่อสัตย์ โดยปกติจะเป็นทั้งสามอย่าง
เรามาคุยกันว่า Bitcoin ทำอะไรได้บ้างในอนาคตของพลังงานสะอาด tldr:
เป็นไปไม่ได้ในทางการเมืองที่จะควบคุมการปล่อยมลพิษทั่วโลกภายในกรอบเวลาที่สมเหตุสมผล
ถึงกระนั้น เราควรพยายาม "โค้งงอ" โดยการควบคุมตัวปล่อยที่ใหญ่ที่สุด
Bitcoin สามารถช่วยลดการปล่อยมลพิษได้โดยการรีไซเคิลพลังงานที่อาจสูญเปล่า/ตกค้าง
โครงสร้างพื้นฐานการขุดสามารถช่วยอุดหนุนกำลังการผลิตพลังงานสะอาดใหม่ได้
ในขณะเดียวกัน Bitcoin ยังให้บริการโซลูชั่น S และ G ในแง่ของ ESGไปทีละคน**1. การควบคุมการปล่อยมลพิษเป็นไปไม่ได้ในทางการเมือง **ขอใครพูดตรงๆ สักนิดได้ไหม การดักจับคาร์บอนและทำความสะอาด cryptocurrencies หรือสภาพอากาศและความวุ่นวายทางการเมือง นี่คือตัวเลือก
ในบทความล่าสุด
สิ่งนี้ได้รับการวิเคราะห์ใน แต่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ Bitcoin ควรเป็นแบบย่อยตามผลกระทบทางเศรษฐกิจ "ปัญหา" คือ การขุด Proof-of-Work จะหายไปในระยะสั้น (ในกรณีที่เกิดความล้มเหลว) หรือหากเพิ่มขึ้นเป็นชั้นการชำระบัญชีทั่วโลกมูลค่า 20 ล้านล้านดอลลาร์ และส่วนเสริมที่สำคัญอย่างเป็นระบบของ Fedwire (หรือแทนที่) จะใช้พลังงาน 1% ของโลก นั่นเป็นจำนวนที่มาก แต่ไม่ใช่ถ้า cryptocurrencies เป็นอย่างอื่นทำให้บริการทางการเงินจำนวนมากเป็นไปโดยอัตโนมัติLyn Alden
การลดลงของอัตราเงินเฟ้อของ Bitcoin หมายถึงการลดลงของสัดส่วนการใช้จ่ายด้านความปลอดภัย ซึ่งหมายถึงความแข็งแกร่งของอัตราการแฮชที่ลดลง
คำอธิบายภาพ
*แหล่งที่มา: *หากมีอะไรเกิดขึ้น พวกเราส่วนใหญ่ที่ถือ Bitcoin ทราบดีว่าความกังวลที่ใหญ่กว่านั้นอยู่ที่แผนอุปทานที่เพิ่มสูงขึ้นของ Bitcoin ในปัจจุบัน สัดส่วนที่ลดลงของรางวัลบล็อกต่อมูลค่าตลาดรวมมีความเสี่ยงที่หากมีสิ่งใดรางวัลบล็อกที่คิดค่าธรรมเนียมจะไม่ดึงดูดพลังงานเพียงพอที่จะทำให้เครือข่ายปลอดภัย(ในวงการเศรษฐกิจส่วนใหญ่ คุณจะประสบปัญหาในการใช้คำว่า "ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง" เพราะหลายคนกลัวว่าปรากฏการณ์นี้จะกลายเป็นคำทำนายที่เติมเต็มในตัวเอง สำหรับ Bitcoin สำหรับใครก็ตามที่ชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นมีความเสี่ยงต่ำเกินไป ก็เป็นเรื่องจริงเช่นเดียวกัน เผื่อมีคนตั้งกระทู้ถามและเตรียมปิดบังความจริงเรื่อง "21 ล้าน")**3. BITCOIN ฟื้นพลังงาน:** ปรากฎว่าพลังงานสะอาดราคาถูกที่สุดในโลกบางส่วนกำลังรอการแตะ "นอกตาราง" คงจะดีหากมีผู้บริโภคมือถือที่ไม่จำกัดพื้นที่! นักขุดที่พิสูจน์การทำงาน - ดังที่เราเห็นจากกราฟในมณฑลเสฉวน - คือผู้บริโภคเหล่านี้ที่ดูดกิน kWh ที่มีอยู่อย่างตะกละตะกลามด้วยต้นทุนส่วนเพิ่มที่ต่ำที่สุด เช่นน้ำบนแผนที่ภูมิประเทศ 3 มิติ
. (จริงๆแล้วนักขุด Bitcoin เป็นเพียง
แดเนียล เพลนวิวผู้เมตตา). นั่นคือสิ่งที่ทำให้ Nick Grossman, Square และ Ark Invest และคนอื่นๆ เรียก Bitcoin ว่าเป็น "แบตเตอรี่เงิน"ตอนแรกฉันลังเลที่จะใช้กรอบนี้ ฟังดูสะดวกใช่มั้ย แต่ฉันคิดออกแล้ว
การปล่อยก๊าซธรรมชาติ (การรั่วไหลของก๊าซมีเทน) และการลุกเป็นไฟ (การเผาไหม้ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของแบตเตอรี่เงินที่ใช้งานได้จริง ในสหรัฐอเมริกา เราเผาผลาญก๊าซธรรมชาติ (เทียบเท่า 150 TWh) ต่อวัน มากกว่าการใช้พลังงานทั่วโลกสูงสุดต่อปีของ Bitcoin
ฉันเขียนเกี่ยวกับบางบริษัทที่ทำงานนี้ในเอกสารของฉันเมื่อสองปีที่แล้ว (
ผู้กำหนดนโยบาย: เพื่อประโยชน์ของคุณ คำถามของคุณเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้พลังงานของผู้บริโภคชาวอเมริกันและอุตสาหกรรมพลังงานของเรา ไม่ใช่โรงงานกู้คืนพลังงาน Bitcoin ฉันรู้ว่านี่ฟังดูเหมือนเรื่องเล่าเพ้อฝันและชอบธรรมในตัวเอง แต่การขุด Bitcoin อาจเป็นประโยชน์อย่างมากต่ออเมริกาจริง ๆ ไม่ใช่หมีขั้วโลกที่ต้องตายเพราะมัน (หมี Bitcoin เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และหมีทุกตัวต้องตาย) ด้วยการอุดหนุนบางส่วน การขุด bitcoin ในสหรัฐอเมริกาอาจติดลบสุทธิในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
สม่ำเสมอ
เท็ด ครูซ ทำได้ทุกอย่าง“50% ของก๊าซธรรมชาติในประเทศนี้กำลังถูกจุดไฟ ตอนนี้กำลังถูกจุดขึ้นใน Permian ใน West Texas ฉันคิดว่านั่นเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Bitcoin เพราะพลังงานนั้นกำลังสูญเสียไป มันสูญเปล่า เป็นเพราะไม่มีอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่จะ นำก๊าซไปใช้ในที่ที่สามารถใช้ได้ มันแค่ถูกเผา”มีศักยภาพมากที่นี่ เราไม่สามารถปล่อยให้ของขวัญชิ้นนี้จากประเทศจีนสูญเปล่า
**4. Bitcoin เป็นตัวกระตุ้นพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม:** ลองมาทุบบ้านนี้และพิจารณาว่าการขุด Bitcoin ไม่เพียงแต่ปล่อยพลังงานสุทธิเป็นศูนย์เท่านั้น ชนชั้นสูงในแถบชายฝั่งจะเย้ยหยันแนวคิดนี้ — พวกเขาไม่ต้องการ Bitcoinน้ำเมือกสีชมพู— เพราะพวกเขาไม่หิวโหยสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (หรือเนื้อชั้นดี) แต่ชุมชนที่การลงทุนในการขุดสามารถช่วยเติมงบประมาณด้านการลงทุนที่สะอาดได้อย่างไร หรือตลาดเกิดใหม่ที่มีทรัพยากรหมุนเวียนจำนวนมหาศาล แต่ปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการพลังงานสะอาดเพียงเล็กน้อย?
นักขุด Bitcoin เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากพวกเขาปรับให้เหมาะสมสำหรับตัวแปรเดียว (kWh ต่ำสุด) และทำหน้าที่เป็น "ผู้ซื้อพลังงานทางเลือกสุดท้าย" บนมือถือสำหรับพลังงานที่ไม่สามารถขนส่งได้ง่าย คุณสามารถเห็นได้ว่าคนงานเหมืองเร่ร่อนถูกรวมอยู่ในค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสะอาดใหม่ ซึ่งเมืองเหล่านี้จำเป็นต้องชดเชยความต้องการที่ซบเซาก่อนหน้านี้ จากนั้นขับรถไปยังเมืองถัดไป สิ่งที่ตรงกันข้ามก็เป็นจริงเช่นกัน สำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยซึ่งมีพลังงานราคาถูก คนงานเหมืองอาจช่วยจัดหาเงินทุนหรือช่วยพวกเขาพัฒนาพลังงานสะอาด ในประเทศที่มีรายได้ต่ำด้านพลังงาน นักขุดสามารถช่วยจัดหาทุนหรืออุดหนุนค่าใช้จ่ายด้านทุนเพื่อแลกกับสิทธิด้านพลังงานราคาถูก (อาร์ค อินเวสท์ (อาร์ค อินเวสเมนท์)ประกาศรุ่นได้ผลดังนั้นคุณจึงสามารถตรวจสอบสมมติฐานเหล่านี้ได้ด้วยตนเอง)การขุด Bitcoin เป็นเรื่องเล็กน้อยอยู่แล้ว — และด้วยความถี่ที่เพิ่มขึ้น — กระตุ้นการลงทุนด้านพลังงานสะอาด นอกจากเผาแล้วก็มีโรงขุดที่น้ำตกไนแองการ่า
ซึ่งเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าถ่านหินในอดีตและปัจจุบันใช้พลังน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เจ้าของเคยดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าถ่านหินในจีน นอกจากนี้ยังมี North Vancouver ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดย Mintgreen เพื่อรวมข้อมูลจากผู้ขุด bitcoin96% ของพลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ใช้เพื่อทำความร้อน. นวัตกรรมใหม่อื่น ๆ ก็จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันไม่โทษคุณ ฉันเคยคิดว่ามันเป็นระฆังและนกหวีดทางการตลาดมากกว่าสาร แต่จีนเปลี่ยนตัวแปรทั้งหมด เบน ทอมป์สัน
ในบทความล่าสุดชี้ให้เห็น:"หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่เราทำในฐานะสังคมคือการคิดว่าพลังงานนั้นหายากโดยเนื้อแท้ ... ข้อโต้แย้งที่ว่า Bitcoin เป็นสิ่งจูงใจในการลงทุนในพลังงานที่อุดมสมบูรณ์นั้นเป็นการเสแสร้ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันผิด! Bitcoin ทำหน้าที่ของตัวเองจริง ๆ ด้วยการให้สิ่งจูงใจในการลงทุนในพลังงานที่อุดมสมบูรณ์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาคิดผิด!”
Nic Carter ก็เช่นกันในปีนี้
มีประสบการณ์ที่คล้ายกัน
การเปลี่ยนจากผู้สงสัยเป็นผู้ประกาศ:“การขุด Bitcoin กำลังหลอมรวมเข้ากับอุตสาหกรรมพลังงานอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดนวัตกรรมที่ระเบิดได้ ซึ่งจะทำให้ Bitcoin สลายตัวได้ในระยะปานกลาง และเป็นประโยชน์อย่างมากต่อกริดที่หมุนเวียนมากขึ้น ที่สำคัญกว่านั้น ดูเหมือนว่ามีเพียง Bitcoin เท่านั้น — ไม่ใช่แหล่งอื่น ๆ ของภาระทางอุตสาหกรรม - สามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้จริง”เขาให้เหตุผลว่าสิ่งนี้มาจากการถือกำเนิดของ lifecycle mining (ชิปรุ่นใหม่สำหรับกริดที่มีเวลาทำงานสูง ชิปรุ่นเก่าสำหรับสถานที่ที่ค่า kWh ส่วนเพิ่มมีราคาถูก) ทำให้วงจรการพัฒนา ASIC ช้าลง (การขุด 30% เกิดขึ้นกับชิปที่มีอายุมากกว่า 5 ปี) เช่น เช่นเดียวกับระบบการขุดแบบผสมผสานบนกริดและระบบการขุดแบบ off-the-meter (การใช้ตัวแปรโดยนักขุดในระบบตอบสนองความต้องการ)
สแควร์อยู่ที่
ในเอกสารไวท์เปเปอร์เกี่ยวกับศักยภาพพลังงานสะอาดของ BitcoinLyn Alden*, Nic Carter, Square, Nick Grossman, and *The B Word)
“ในขณะที่สังคมเริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมมากขึ้น [เรา] มีศักยภาพในการปลดล็อกกรณีการใช้งานใหม่ที่ให้ผลกำไรสำหรับไฟฟ้านี้ เช่น การแยกเกลือออกจากน้ำ การกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศ หรือการผลิตไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” รายงานระบุนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่สวยงามจริงๆ(อ่านเพิ่มเติม:**5. ต้นทุนเป็น USD:** คุณอาจกล่าวได้ว่าอุตสาหกรรมการเงิน (แข็งแกร่งกว่าคาร์บอน 25 เท่า
) และคอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมการทหาร (แข็งแกร่งกว่าคาร์บอน 50 เท่าสรุปได้ดีที่สุดในบทความที่น่าทึ่งโดย ที่กล่าวว่า แม้ว่าผู้กำหนดนโยบายจะคิดว่า Bitcoin นั้นสกปรกและสิ้นเปลืองอย่างสิ้นหวัง และทำลายอนาคตของโลก พวกเขาไม่ควรเลือกปฏิบัติในการตั้งค่าการใช้พลังงาน เมื่อ Petrodollars สนับสนุนระบอบเผด็จการ จะนำไปสู่การรุกรานทางทหาร และใน กระบวนการเชื้อเพลิงยิ่งสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงฟอสซิล มีคนจำนวนมากพอที่เชื่อในมูลค่าของ Bitcoin ว่าเป็นการลงทุนในการทดลองทางสังคมและการกำกับดูแลแบบใหม่ ซึ่ง S และ G ของมันสามารถหักกลบลบล้างแม้กระทั่ง E-case ที่เลวร้ายที่สุดของนักวิจารณ์ได้ Bitcoin เป็นเรื่องการเมืองโดยเนื้อแท้
(แหล่งที่มา:Jason Lowery)
คำอธิบายภาพ(แหล่งที่มา:ข้อความแน่นอนว่ายังมี "E" อีกหนึ่งตัวที่อาจโน้มน้าวใจผู้กำหนดนโยบายได้ นั่นคือผลกระทบทางเศรษฐกิจ การขุดในสหรัฐเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ และนักขุดที่มีรายชื่ออยู่ในสหรัฐ ณ ราคาปัจจุบัน กำลังนั่งอยู่บนBTC และเนื่องจากการไหลออกของความสามารถในการขุดของจีนทำให้มีรายได้หลายร้อยล้านทุกปี และอัตรากำไรก็ดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน นี่คือสิ่งที่วุฒิสมาชิกครูซพูดในการประชุม Bitcoin ในออสตินในฤดูใบไม้ร่วงนี้
เผยแพร่ในประเด็นนี้กล่าวไว้ในสุนทรพจน์ที่ชวนคิดข้อความ
โครงสร้างพื้นฐานการขุดสามารถนำไปสู่พันธมิตรที่ไม่ธรรมดา เช่น Ted Cruz ทางขวาและ AOC ทางซ้าย หากคุณต้องการการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ cryptocurrencies นำมา และคุณต้องการอุดหนุนและกระตุ้นการลงทุนด้านพลังงานสีเขียว ให้อุดหนุนการขุดที่สะอาดบาร์! เป็นตลาดโลกที่มีผลรวมเป็นศูนย์เพียงหนึ่งเดียว ซึ่งหมายความว่าการอุดหนุนพลังงานสะอาดจะทำให้การขุด "สกปรก" ที่มีราคาแพงกว่าหมดไป ผลลัพธ์สุทธิคือเครือข่าย Bitcoin ที่มีความหนาแน่นคาร์บอนต่ำซึ่งครอบงำโดยตะวันตก
ยังชี้ให้เห็น
นักลงทุน ESG สามารถลงทุนในนักขุดที่มีการซื้อขายสาธารณะซึ่งมีแต่พลังงานหมุนเวียน เช่น Iris Energy และมีผลเช่นเดียวกับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลโดยการลดต้นทุนของเงินทุนสำหรับการขุดสีเขียว
ชื่อเรื่องรองMeltem
6. หลักฐานการทำงานใช้งานได้เพราะหลักฐานการทำงาน
“PoW และ PoS ไม่ใช่สิ่งทดแทน ไม่ใช่แม้แต่ส่วนเสริม และเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันโดยพื้นฐานที่ไม่ควรนำมาเปรียบเทียบหรือเปรียบเทียบกัน” —
Microsoft Yahei, STHeiti,
เช่นเดียวกับข้อโต้แย้ง “BTC คือเงิน ไม่มี ETH คือเงิน” นี่เป็นหนึ่งในประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกัน การพิสูจน์การทำงานจะเผาผลาญพลังงานเพื่อพิสูจน์ว่าเครือข่ายให้การรับประกันการตั้งถิ่นฐานที่เป็นธรรมทั่วโลกโดยไม่ต้องพึ่งพาเจ้าของเครือข่าย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะรวมศูนย์เมื่อเวลาผ่านไป การแยกสิ่งจูงใจในการประมวลผลธุรกรรมและความรับผิดชอบในการเป็นเจ้าของเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเครือข่ายที่มุ่งเป็นทางเลือกที่ไม่ใช่อำนาจอธิปไตยแทนเงิน
ในทางตรงกันข้าม เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะนึกถึงเครือข่ายการพิสูจน์การถือหุ้น (ซึ่งใช้ผู้ถือโทเค็นเป็นหน่วยงานกำกับดูแลแบบรวม) ว่าเป็นแอนะล็อกเชิงพาณิชย์ ทุกเครือข่ายการพิสูจน์การเดิมพันมีความเสี่ยงของการรวมศูนย์ การเซ็นเซอร์ และการข่มขู่ แต่ก็ไม่เป็นไร
การกระจายอำนาจของ True PoS มาจากบล็อกเชน PoS ที่ทำงานร่วมกันได้หลายพันรายการ ซึ่งจะให้สิ่งจูงใจโทเค็นที่ไม่เหมือนใคร กำหนดการปล่อย กฎการกำกับดูแล แอปพลิเคชันเป้าหมาย ฯลฯ ในระยะยาวคุณไม่ต้องการระบบการเงินที่ Elon Musk เป็นเจ้าของปริมาณเงินจำนวนมากและมีอำนาจในการลงคะแนนเสียงจำนวนมาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจบนเครือข่ายพื้นฐานนั้นมีประสิทธิภาพและสร้างค่าธรรมเนียมและภาษีที่มีข้อกำหนดที่ดี มีอำนาจมากเกินไปกว่าครึ่งหนึ่งของธุรกรรมทั้งหมด ในทางกลับกัน ถ้าเขาสะสมบริการแท็กซี่ขับเองแบบกระจายอำนาจในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คุณอาจไม่มีปัญหาอะไรมากเพราะมันเป็นเพียงแอปพลิเคชัน web3 เดียว，(อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยของ PoW และ PoS:）。
ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด
ความมีเหตุผลเป็นตัวทำลายตนเองชื่อเรื่องรอง7. หลักฐานการทำงานปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อย
อดีตเพื่อนร่วมงาน CoinDesk ของฉัน Pete Rizzo
ได้เขียนบทความที่กระตุ้นความคิด
ระบุว่าสัญญาทางสังคมของ Bitcoin รูปแบบการขุดที่พิสูจน์ได้และการตั้งค่าสำหรับ "ซอฟต์ฟอร์ก" ที่เปิดใช้งานโดยผู้ใช้ทำให้มันเป็น
หากคุณอ่านการโต้วาทีบน twitter สิ่งนี้อาจดูเป็นวิชาการหรือความหมาย แต่อาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่บุคคลสถาบันใหม่ที่เข้าสู่ cryptocurrency ควรพยายามทำความเข้าใจ เป็นเวลาห้าปีแล้วที่เกิดการ Hard Fork เพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของ Ethereum และอีกสี่ปีนับตั้งแต่ Bitcoin เป็น "Soft Fork ที่เปิดใช้งานโดยผู้ใช้" ซึ่งยุติการแลกเปลี่ยน นักขุด ผู้ใช้ และปีหลักของสงครามขนาดระหว่างนักพัฒนา หากคุณยังไม่เคยไปที่นั่น ก็ยากที่จะอธิบายได้ว่าความแตกแยกทางการเมืองเหล่านี้มีความเสี่ยงเพียงใด และการเมืองข้อตกลงที่เป็นปัญหาอาจเกิดขึ้นได้อย่างไรในอนาคต
(ตัวอย่างเช่น คุณคิดว่าช่องทางที่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับการเซ็นเซอร์คือรหัส soft fork ที่เปิดใช้งานโดยตัวตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งมีแรงจูงใจเชื่อมโยงกับการประมวลผลธุรกรรมที่กำลังดำเนินอยู่หรือไม่ หรือการฮาร์ดฟอร์กรหัสที่เปิดใช้งานโดยเจ้าของส่วนใหญ่ที่มีแรงจูงใจผูกติดอยู่กับทุนสะสมของพวกเขา?、ความเอนเอียงของ Bitcoin ต่อการเพิ่มขึ้นแบบ soft fork คือการจัดลำดับความสำคัญของ “การบังคับผู้ใช้มากกว่าการแยกกัน” — การรักษาครอบครัวไว้ด้วยกัน คล้ายกับข้อกำหนดของผู้ถือหุ้นที่ “ลากตาม” เมื่อผู้ใช้สนับสนุน fork มากเพียงพอ คุณจะถูกดึงเข้าสู่โปรโตคอลเวอร์ชันใหม่โดยอัตโนมัติ ในทางกลับกัน สำหรับ Ethereum มันเป็นการอัปเกรด iOS มากกว่า ใช่ ฮาร์ดฟอร์กใหม่เป็นการ "เลือกรับ" สำหรับผู้ใช้ แต่ในแง่ที่ว่าผู้ใช้ยอมอัปเกรดหรือไม่สามารถเข้าถึงเครือข่ายหลักได้เท่านั้น ในอินเทอร์เน็ตของบล็อกเชนที่ไม่ได้ถูกครอบงำโดย Ethereum การกดขี่ของตลาดนี้จะลดน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป ออก = เลือก、ฉันไม่ได้ถือความคิดเห็นที่แข็งแกร่งที่นี่เนื่องจากฉันมีการลงทุนทั้ง Bitcoin และ Ethereum และเชื่อว่าทั้งคู่จะประสบความสำเร็จ หากคุณยังใหม่กับสิ่งนี้ คุณควรศึกษาเพิ่มเติม นี่เป็นส่วนที่หนาแน่น ฉันขอโทษสำหรับระดับ 301 ตอน แต่ฉันไม่มีเวลาที่จะทำให้มันง่ายขึ้นหลังจากเขียน 800 ชั่วโมงความคิดของ Vitalikการอภิปรายของ Hasu）。
ถ้าคุณยังใหม่ที่นี่มี
หนังสือเกี่ยวกับ Zoom Legends
สำหรับ(ในฐานะผู้สังเกตการณ์ คุณสามารถติดตามวงจรชีวิตทั้งหมดของ Taproot BIPs ได้อย่างง่ายดาย—ไม่ต้องพูดถึงการอัปเดตโปรโตคอลสำหรับเครือข่ายที่เข้ารหัสอีก 200 เครือข่าย—โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของอินเทล
สำหรับผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญโดยทั่วไปแล้ว Taproot ทำให้ธุรกรรม Bitcoin ถูกลง และการใช้ "ลายเซ็น Schnorr" จะช่วยปรับปรุงค่าเริ่มต้นและความสามารถในการแทนที่ของ Bitcoin และอาจเริ่มขั้นตอนต่อไปของการพัฒนาสำหรับ Bitcoin Lightning Network ขั้นตอนต่อไปของการพัฒนาสำหรับ Lightning Network ของ Bitcoin หลังจากเขียนมาหลายปี ในที่สุดมันอาจจะระเบิดในปีหน้าพูดตามตรง Taproot เป็นปัญหาใหญ่สำหรับความเป็นส่วนตัวและ Lightning แต่สำหรับ BitcoinอนาคตของสัญญาอัจฉริยะSapioไม่เป็นเช่นนั้น (เราพูดถึง "ไซด์เชน" มาตั้งแต่ปี 2014 และพวกเขาแพ้) ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ Bitcoin สามารถถูกห่อหุ้มเป็นหลักประกันในขนาดใหญ่บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้ Bitcoin เหมาะสมทางเทคนิคสำหรับแอปพลิเคชันสัญญาอัจฉริยะใหม่
การชำระเงินภายนอกส่วนหนึ่ง. ฉันได้ลงทุนในบริษัทหลายแห่งที่ใช้ Lightning (เช่น Kollider* และการแลกเปลี่ยนอนุพันธ์แบบเรียลไทม์) และฉันต้องการเห็นบริษัทของ Jeremy Rubinความสำเร็จ. ดังนั้นฉันจึงมองโลกในแง่ดีด้วยความระมัดระวังว่าจะมีผู้ชนะ
อย่างไรก็ตาม ฉันอยู่ที่นี่มานานพอที่จะระงับความกระตือรือร้นในการใช้งาน Bitcoin ที่นอกเหนือจากกรณีการชำระเงินและกรณีการใช้การชำระมูลค่าที่เก็บไว้ การเปลี่ยน Fedwire แบบสแตนด์อโลนก็เพียงพอแล้ว ขอบคุณ ในความเป็นจริง Bitcoin มีการชำระ Bitcoin บนเครือข่าย 300,000 รายการทุกวัน
และตอนนี้มีการเรียกเก็บเงินจาก Fedwire 800,000 ครั้งต่อวัน. เมื่อคุณพิจารณาว่าบริการ escrow มักจะรวบรวมธุรกรรมขนาดเล็กหลายร้อยหรือหลายพันรายการในธุรกรรมเดียว Bitcoin นั้นแซงหน้า Fedwire ในแง่ของปริมาณงานแล้ว สายฟ้าสามารถเพิ่มความเร็วได้อีกการพัฒนาบน Bitcoin นั้นเหมือนกับการสร้างจรวด ในขณะที่การพัฒนาบน Ethereum นั้นมีความคล้ายคลึงกับการสร้างสตาร์ทอัพใน Silicon Valley มากกว่า เงินเดิมพันจะสูงขึ้นด้วย Bitcoin (เราจะพูดถึงเรื่องนี้ในบทที่ 6) และคุณต้องการความปลอดภัยระดับวิทยาศาสตร์จรวดเพื่อสร้างทางเลือกการเข้ารหัส FedEx ที่มั่นคงแทน Fedwire การอัปเดตอย่างต่อเนื่องและการลงทุนในรหัสหลักและโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารของ Bitcoin แสดงให้เห็นว่าฉันกำลังพูดถึงอะไร
v22.0 (เผยแพร่ในฤดูใบไม้ร่วงนี้) เชื่อมต่อ Bitcoin กับโปรโตคอลการสื่อสารที่ไม่ระบุตัวตนตัวที่สอง นั่นคือ Invisible Internet Project เพื่อเสริมการผสานรวมของ Tor และสร้างความยืดหยุ่นในความสามารถในการส่งข้อความที่ปลอดภัยและยืดหยุ่นของ Bitcoin ทำให้ผู้ใช้ยกเลิกการเปิดเผยตัวตนได้ยากขึ้น ความพยายามในการบล็อกสตรีมเปิดตัวดาวเทียม bitcoin สู่อวกาศซึ่งฟังดูแปลกประหลาด แต่ก็รับประกันได้ว่าสังคม (และอินเทอร์เน็ต) จะล่มทุกที่ที่มีการเข้าถึงเครือข่าย
นั่นไม่ได้หมายความว่า Bitcoin เป็นการเดิมพันกับอนาคตของ Mad Max แต่เป็นแพชูชีพสำหรับผู้ลี้ภัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต “สังคมล่มสลาย. นั่นคือสิ่งที่กำลังจะมีมากกว่า 190 ประเทศ และเพิ่มชั้นการถ่ายโอนมูลค่าแบบไร้พรมแดน “งานนี้มีความสำคัญ)
(อ่านเพิ่มเติมได้จาก
นิตยสาร Bitcoin: Aaron เป็นนักเขียนด้านเทคนิค Bitcoin ที่ดีที่สุดชื่อเรื่องรอง9. ฟ้าผ่าที่เอลซัลวาดอร์
แต่กำลังการผลิตรวมเพียง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ ERC-20 Stablecoin จะชำระยอด 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ โดยไม่จำกัดกำลังการผลิต
(แหล่งที่มา:Arcane Research)
สำหรับความคืบหน้าทั้งหมด ERC-20 Stablecoins หรือสินทรัพย์เข้ารหัสอื่น ๆ ไม่ได้ทำสิ่งที่ Bitcoin ทำในฐานะ "เงิน" ในปีนี้ แน่นอน ฉันหมายถึงการที่ Bitcoin ได้รับการยอมรับว่าถูกกฎหมายในเอลซัลวาดอร์ สิ่งที่น่าแปลกใจเกิดขึ้นกับการใช้งานเมื่อคุณทำระบบการชำระเงินแบบวงปิดโดยไม่บังคับให้คุณเชื่อมต่อกับเงินสำรองอีกครั้งคำอธิบายภาพ(แหล่งที่มา:
เรายังคงพูดถึงจำนวนที่น้อยเมื่อเทียบกับ DeFi แต่เรายังคงพูดถึงผู้คน 6 ล้านคนที่ถูกต้องตามกฎหมายสกุลเงินจริงแทนที่จะเป็นสกุลเงิน fiat โทเค็นที่ขี่บนราง cryptocurrency และสามารถปิดตัวลงได้ในพริบตา
ฉันเชื่อว่าฉันคงคิดผิดเกี่ยวกับสายฟ้าอีกครั้ง แต่ฉันเห็นว่า Lightning มีความจุถึง 30,000 BTC ภายในสิ้นปี 2022 (และอีก 10 เท่าในปีหน้า) ต้องขอบคุณแผนการส่งเสริมการขายเชิงรุกของ Twitter, Taproot และ President Ukele ถ้าประเทศอื่นอย่างปารากวัยหรือยูเครนทำตามทฤษฎีเกม Bitcoin, อาจจะสูงขึ้น.ฉันรัก "สายฟ้า" มันเย็น. ฉันรักมากสาธิตการนัดหยุดงาน(การสาธิตการนัดหยุดงาน) ฉันชอบข่าวที่มีชาวซัลวาดอร์ 2.7 ล้านคนดาวน์โหลดกระเป๋าเงิน Chivo ใหม่$30 BTC ออกอากาศข้อความและอนุญาตให้ผู้ใช้ชำระเงินด้วย Lightning บนโทรศัพท์ของพวกเขา Lightning จ่ายบนโทรศัพท์ของพวกเขา ฉันเชื่อสิ่งนี้ทั้งหมดเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อSnowden. ฉันรักทวิตเตอร์
บริการสายฟ้าทิป
