หนี้ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ทะลุหลัก 30 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว โดยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตั้งแต่ปี 2018
สำนักข่าว Odaily Planet Daily รายงานว่า หนี้สาธารณะรวมที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกได้ทะลุ 30 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่านับตั้งแต่ปี 2018 ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่า ณ เดือนพฤศจิกายน ตั๋วเงิน ตั๋วเงินคลัง และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ค้างชำระทั้งหมด มีมูลค่าสูงถึง 30.2 ล้านล้านดอลลาร์ หนี้ 30.2 ล้านล้านดอลลาร์นี้เป็นองค์ประกอบหลักของหนี้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ณ เดือนพฤศจิกายน หนี้สาธารณะรวมของสหรัฐฯ อยู่ที่ 38.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงหนี้ของกองทุนประกันสังคม พันธบัตรออมทรัพย์ และอื่นๆ ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และตลาดการเงิน ระบุว่า สหรัฐฯ ระดมทุนได้ 4.3 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2020 ผ่านการออกพันธบัตรทั้งสามประเภทนี้ โดยมีการขาดดุลงบประมาณมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนั้น แม้ว่าการขาดดุลจะลดลงแล้ว (แตะระดับประมาณ 1.78 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2568) แต่การชำระดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวก็สูงถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ เจสัน วิลเลียมส์ นักยุทธศาสตร์อัตราดอกเบี้ยของซิตี้กรุ๊ป ชี้ให้เห็นว่า “ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย แม้ว่ารายได้จากภาษีศุลกากรจะสูงถึง 300,000-400,000 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังน้อยกว่าดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายจากหนี้ที่มีอยู่มาก เราเหมือนจมลงไปในหลุมทรายดูด ภาษีศุลกากรอาจช่วยชะลอการจมของเราได้เล็กน้อย แต่เราก็ยังคงจมอยู่” (จินสือ)
