Odaily แพลนเน็ต เดลี่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมปรับใช้ระบบซื้อขายตราสารหนี้แบบ DLT โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อกระตุ้นให้บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ เข้าสู่การซื้อขายโทเคนดิจิทัล
นายจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้อนุมัติโครงการโทเคนดิจิทัลแล้ว 4 โครงการ และอยู่ระหว่างพิจารณาอีก 2 โครงการ โดยเน้นที่โทเคนสีเขียวและโครงการที่ขับเคลื่อนด้วยการลงทุน
นายคงสกุล ชี้แจงว่า พันธบัตรที่ซื้อจากตลาดหลักทรัพย์แรกจะใช้เวลาราว 7-14 วันจึงจะซื้อขายในตลาดรองได้ นักลงทุนยังต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น การเข้าถึงผลิตภัณฑ์บางประเภทได้จำกัด และต้นทุนที่สูงและการขาดสภาพคล่องของพันธบัตรบางประเภท
ในเวลาเดียวกัน ผู้ออกต้องประมวลผลเอกสารด้วยตนเองจำนวนมาก ซึ่งอาจเกิดความล่าช้าและข้อผิดพลาดได้ ดังนั้นการใช้ DLT จึงคาดว่าจะช่วยรับประกันประสิทธิภาพและปรับกระบวนการให้คล่องตัวยิ่งขึ้นและสามารถแก้ไขอุปสรรคในตลาดทุนได้
หน่วยงานกำกับดูแลมีเป้าหมายที่จะทำให้ระบบการซื้อขายพันธบัตรเป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง รวมถึงการชำระหนี้ การซื้อขาย การลงทะเบียนนักลงทุน และการชำระเงินตอบแทน คงสกุลสัญญาว่าการแข่งขันจะยังคงเปิดกว้าง เนื่องจากบริษัทที่มีโครงสร้างพื้นฐาน DLT ของตนเองสามารถสร้างเครือข่ายอิสระได้ตราบใดที่มั่นใจว่าสามารถทำงานร่วมกันได้ภายในมาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียว บริษัทอื่น ๆ สามารถเข้าถึงเครือข่ายสาธารณะของ SEC ได้ในราคาที่ไม่แพง หากมองไปข้างหน้า อาจมีห่วงโซ่ธุรกรรมหลายรายการ โดยระบบที่ใช้ DLT ทั้งหมดเชื่อมต่อกันด้วยบัญชีแยกประเภทที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีอยู่จะยังคงอยู่แต่จะถูกแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย DLT ได้อย่างราบรื่น แนวทางนี้อำนวยความสะดวกในการซื้อขายแบบเศษส่วนด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และปรับปรุงสภาพคล่องโดยดึงดูดผู้เข้าร่วมมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เปิดใช้งานธุรกรรมแบบเรียลไทม์และลดปัญหาการชำระเงิน
นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูล SEC Open API เพื่อให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพื่อช่วยให้นักลงทุนดำเนินการวิเคราะห์ที่ดีขึ้นและตัดสินใจลงทุนได้อย่างรอบรู้มากขึ้น (หนังสือพิมพ์กรุงเทพโพสต์)
